วันที่ 16 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 4 อาคารสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.เมือง จ.นครราชสีมา สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กับมหาวิทยาลัยในเขตจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี , มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ให้เกิดเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ตอบสนองต่อเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทประเด็น 21 การต่อต้านการทุจริต และประพฤติมิชอบ ที่มุ่งเน้นปรับพฤติกรรมของคน โดยเน้นการปลูกฝังและหล่อหลอมให้มีจิตสำนึกและมีพฤติกรรมยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้ง สร้างวัฒนธรรมต้านทุจริต รู้จักแยกแยะเรื่องส่วนตัวออกจากประโยชน์ส่วนรวม โดยเฉพาะการปลูกฝังวิธีคิดให้กับกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการมีส่วนร่วมเป็นเครือข่ายแจ้งเบาะแสการทุจริตในทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งมีผู้ร่วมลงนาม MOU ประกอบไปด้วย นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. , นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา , อธิการบดีและผู้บริหารมหาวิทยาลัย ทั้ง 4 แห่ง โดยมีนักศึกษา เข้าร่วมในพิธี กว่า 300 คน
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ คณะกรรมการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล สถาบันวิชาการป้องกันระหว่างประเทศ กรมยุทธศึกษาทหารบก กรมยุทธศึกษาทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ กองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น ร่วมกันจัดทำขึ้นในปี พ.ศ. 2561 มีจำนวน 5 หลักสูตร ได้แก่ 1. หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต) 2. หลักสูตรอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด “Youngster with good heat”) 3. หลักสูตรกลุ่มทหารและตำรวจ (หลักสูตรตามแนวทางการรับราชการ กลุ่มทหารและตำรวจ) 4. หลักสูตรวิทยากร ป.ป.ช./บุคลากรภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ (สร้างวิทยากรผู้นำการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต) 5. หลักสูตรโค้ช (โค้ชเพื่อการรู้คิดต้านทุจริต)
โดยมีเนื้อหา 4 ชุดวิชา ประกอบด้วย 1) การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม 2) ความอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 3) STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต 4) พลเมืองและความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 และวันที่ 18 สิงหาคม 2563 เห็นชอบหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปรับใช้ในการจัดการเรียน การสอนของสถานศึกษา และปรับใช้ในหลักสูตรฝึกอบรมของหน่วยงาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นมา ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2564 ได้จัดทำเพิ่มเติมอีก 3 ชุดวิชา ได้แก่ 1) การต้านทุจริตในสถานการณ์ Digital Disruption 2) การพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางธรณี 3) การพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติน้ำและน้ำบาดาล และในปี พ.ศ. 2565 ได้จัดทำเพิ่มเติมอีก 2 ชุดวิชา ได้แก่ 1) การพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ 2) การพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งเป็นเนื้อหาใหม่เพื่อให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันในการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริตมากขึ้น
โดยการจัดทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ก็เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน เผยแพร่ และประสานความร่วมมือให้เกิดการเสริมสร้างทัศนคติ ค่านิยมในความซื่อสัตย์สุจริต องค์ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ให้กับมหาวิทยาลัย และบุคลากรในสังกัด ตลอดจน เพื่อสร้างเครือข่ายป้องกันและปราบปรามการทุจริตในกลุ่มคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากรให้มีส่วนร่วมในการ เฝ้าระวังการทุจริตทุกรูปแบบ และเพื่อให้มหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชน สถาบันการศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา มีบทบาทในการนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้ในการเรียนการสอนของหน่วยงานอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้ง รณรงค์และขยายแนวคิดให้สถาบันการศึกษา บริหารงานด้วยความโปร่งใส เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน และยกระดับมาตรฐานการป้องกันการทุจริตขององค์กร
ซึ่งนอกจากการให้ความร่วมมือดำเนินงานขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาแล้ว ทั้ง 5 หน่วยงานจะได้ประสานงานและร่วมกันจัดโครงการ / กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมความสุจริตและความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้แก่บุคลากรในสังกัด ประชาชน และนักศึกษา เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริต และร่วมเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็ง ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อมหาวิทยาลัย คณะผู้บริหาร ครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ที่จะได้มีรูปแบบแนวทางการประสานงานกันที่เป็นรูปธรรมชัดเจน และเกิดการประสานความร่วมมือในระดับพื้นที่ ร่วมกันสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด อันจะส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งกันและกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้บันทึกข้อตกลงเป็นพันธะสัญญาร่วมกันต่อต้านการทุจริต ทำให้เกิดกระแสสังคมไม่ยอมรับการทุจริตทุกรูปแบบ อันเป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของประชาชนคนทุกคน.
ภาพข่าว / อภิรักษ์ ศรีอัศวิน ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำ จ.นครราชสีมา