ทหารยศผู้พัน อ้างทำงานกับน้องชายนายกรัฐมนตรี หลอกเงินสาวใหญ่ 3 แสน ด้านผู้ใหญ่บ้านแฉนิสัยกระหล่อน
นางศรยารักษ์ นางวงศ์ 40 ปี ชาวบ้านจังหวัดศรีษะเกษ เดินทางมาขอความช่วยจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด อยากให้ช่วยตรวจสอบว่านายบุญมี จอมหงส์ อายุ41 ปีนายทหารยศผู้พัน ว่าเป็นทหารจริงหรือทหารเก๊ เพราะนายบุญมีรายนี้มาหลอกยืมเงินตนเองโดยอ้างว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของน้องชายนายกรัฐมนตรี ท่านปรีชา จันทร์โอชา ทำให้หลงเชื่อ ให้ยืมเงินไปทั้งหมด 3 แสนบาท พอทวงถามเรื่องเงิน
นางศรยารักษ์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงปลายปี 64 ที่ผ่านมา มีนายบุญมีอ้างตัวว่าเป็นทหารบกยศผู้พัน ทักมาในเพจเฟสบุ๊คตนเอง มาคุยทำนองว่าอยากรู้จัก ตนเองก็เลยคุยด้วย เพราะหลานเขยของนายบุญมีได้เป็นเพื่อนกับตนเองในเฟสบุ๊คเหมือนกัน หลังจากได้คุยกันสักพักหนึ่ง ก็คุยกับถูกใจจึงลองคบหากันดู และได้แลกไลน์กัน พอคบหากันได้ไม่นานนายบุญมีก็ได้ขอยืมเงินตนเองไปทีละ10,000-20,000 โดยอ้างว่า ทำกระเป๋าเงินหายบ้าง อ้างว่าเอาไปลงทุนกับเพื่อนทหารด้วยกันบ้าง อ้างว่าต้องใช้เงินไปข้าราชการบ้าง รวมๆทั้งหมดเป็นเงิน 300,000 บาท พอถึงเวลาที่ต้องใช้เงินคืน นายบุญมีกับบ่ายเบี่ยง อ้างว่าเจ้านายยืมเงินไปเอาไปให้ลูกเรียนต่อต่างประเทศ อ้างโน้นอ้างนี้สารพัด ทำให้ตนเองเริ่มเอะใจแล้วว่า นายบุญมีเป็นทหารจริงหรือเปล่า จึงเอาชื่อ-นามสกุลไปให้ผู้ใหญ่บ้านตรวจสอบ ปรากฎว่า ไม่พบชื่ออยู่ในสายระบบทหาร และได้สอบถามไปยังหลานเขยของนายบุญมีที่เป็นเพื่อนกับตนเองในเฟส จึงได้ข้อมูลมาว่า นายบุญมีไม่ได้เป็นทหาร ไม่ได้ทำงานอะไร เป็นคนขี้คุย ตนเองเลยเอาข้อมูลนี้ไปพูดกับนายบุญมีให้ยอมรับมาเถอะว่าไม่ได้เป็นทหาร และเงินที่ยืมไปมาใช้หนี้ด้วย แต่นายบุญมีกลับยังยืนยันว่าตนเองเป็นทหารยศผู้พันจริงๆ นายบุญมียังมีการปลอมไลน์เป็นผู้หญิง แล้วทักมาหาตนเอง มาพูดกับตนเองว่า “ฉันทำธุรกิจขายผลไม้ส่งนอกประเทศ ฉันหลงรักผู้พันบุญมีจริงๆ และบอกว่านายบุญมีคือทหารจริงๆ แต่ตนเองไม่หลงเชื่ออีกแล้ว จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สภ.ศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อดำเนินคดี แต่เรื่องก็เงียบ
นางศรยารักษ์ เล่าต่อว่า ส่วนที่หลงเชื่อให้เงินนายบุญมียืมไปก็เพราะว่า หลงเชื่อว่านายบุญมีทำงานรับราชการยศผู้พันและเป็นคนสนิทของท่านปรีชา จันทร์โอชา จริงๆ เพราะนายบุญมีมารูปเพื่อนทหารมาให้ดูตลอด รูปขณะทำงาน รูปแต่งชุดนายร้อยถือกระบี่ และมีการตั้งไลน์กลุ่มเพื่อนทหาร และยังเคยจะพาตนเองไปที่ทำงานคือค่ายทหารราบที่11 แต่พอตนเองเดินทางมาใกล้จะถึงก็บอกให้ตนกลับก่อนเพราะนายไม่อยู่ ร่วมถึงมีส่งชุดทหารมาให้คนที่บ้านได้ใส่ และยังอ้างว่าเคยไปรบที่คูเวตมา และยังเคยมาร้องไห้กับตนเอง บอกกำลังจะถูกส่งไปรบที่พม่า ไม่อยากไป ไม่อยากทิ้งครอบครัวไป
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.นพดล ทุนทวีศิลศักดิ์ ผกก.สภ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ เพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี เพราะเนื่องจากใบที่ผู้เสียได้รับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมา เป็นแค่ใบลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ยังไม่มีเลขคดี นอกจากนี้ยังขอให้กองทัพบก ตรวจสอบว่าบุคคลรายดังกล่าวเป็นทหารบก ชั้นยศนายพัน ทำงานกับ พลเอกปรีชา จันโอชา น้องชายของท่านนายกรัฐมนตรีตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่ และถ้าข่าวนี้ออกไป คาดว่าน่าจะมีผู้เสียเพิ่มขึ้นมาอีกหลายราย เพราะจากการตรวจสอบในเฟสบุ๊กขอนายบุญมีที่สร้างขึ้นมากว่า 10 เฟส มีผู้เสียหายอีกหลายรายที่โดนหลอก
***ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่มาที่บ้านของนายบุญมีซึ่งแอบอ้างว่าเป็นทหารยศนายพันที่บ้านเลขที่ 24/1 บ้านโคกพระหมู่ 4 ต.หนองพลวง อ.จักราช จ.นครราชสีมา ซึ่งได้พูดคุยกับทางแม่ของนายบุญมีเผยตกใจลูกเป็นทหารจริงแต่เป็นทหารเกณฑ์ไม่รู้หลอกเอาเงินผู้หญิงไม่กลับบ้านมา 3 ปีแล้ว
โดยนางสาวมลฤดี จอมหงษ์ อายุ 33 ปี น้องสาวของนายบุญมี เปิดเผยว่า ตนไม่เห็นหน้าพี่ชายมาแล้ว 3 ปี ส่วนตัวตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าพี่ชายไปอยู่ที่ไหน ตนก็เพิ่งกลับมาอยู่ที่บ้านเช่นกันและมาขายของอยู่หน้าบ้าน เพราะกลับมาก็มาช่วยดูแลแม่ที่บ้าน ส่วนพี่ชายที่หลอกเอาเงินสาวตนก็ไม่ทราบแต่ก็รู้สึกเสียใจเหมือนกันที่ไปทำแบบนั้น ส่วนที่เป็นทหารนั้นเป็นจริง แต่เป็นทหารเกณฑ์เมื่อนานมาแล้ว ปลดประจำการไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่อายุ 21 ปี
ด้านนายเอกพล อาบัน ผู้ใหญ่บ้านโคกพระ หมู่ 4 เปิดเผยว่า ตอนแรกทราบข่าวก็ตกใจเหมือนกันเพราะว่านายบุญมีไม่ได้เห็นกลับบ้านมานานแล้ว ส่วนที่เคยเป็นทหารตนทราบว่าเคยเป็นทหารเกณฑ์มาก่อน แต่เป็นระดับนายทหารคงไม่ใช่อย่างแน่นอน ที่ล่าสุดที่ทราบพบว่าไปประกอบอาชีพขับวินมอเตอร์ไซด์อยู่ที่ กทม. ล่าสุดเห็นว่าไปมีแฟนอยู่ที่จังหวัดศรีษะเกษ ส่วนนิสัยส่วนตัวคนนี้จะเป็นกระหล่อนชอบหลอกผู้หญิงไปเรื่อยอ้างตัวว่าเป็นนู้นเป็นนี้ประจำ ซึ่งหากพบเห็นตัวก็รีบจับตัวไปดำเนินคดีให้เรียบร้อยเพราะก็หวั่นว่าจะเป็นมิจฉาชีพต่อไปในวันข้างหน้า
ภาพ-ข่าว / อภิรักษ์ ศรีอัศวิน ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำจังหวัดนครราชสีมา