นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

นครนายก – ชาวบ้านแห่สรงน้ำพระคำตันทองคำ 1 ปีมีครั้ง เชื่อกันว่าสรงน้ำขอพรแล้วฝนจะตก

นครนายก – ชาวบ้านแห่สรงน้ำพระคำตันทองคำ 1 ปีมีครั้ง เชื่อกันว่าสรงน้ำขอพรแล้วฝนจะตกชาวไทยพวนเชื่อปาฏิหาริย์พิธีสรงน้ำพระคำตันทองคำ 1 ปีมีครั้ง เชื่อว่าฝนจะตกต้องตามฤดูกาลอุดมสมบูรณ์ได้ทำไร่ ทำนา

ที่วัดศรีมงคล หมู่ 1 ต.หนองเเสง อ.ปากพลี จ.นครนายก พระครูประคุณธรรมประโชติ เจ้าอาวาสวัดศรีมงคล (วัดคลองคล้า) จัดพิธีสรงน้ำพระคำตัน ทองคำ ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณของชาวบ้านไทยพวน โดยมี พล.ต.ต.สุรพล บุญมา (ผู้การแดง) ว่าที่ผู้สมัคร สส.นครนายก พร้อมชาวบ้านไทยพวนกว่า 100 คน ร่วมพิธีสรงน้ำพระคำตันทองคำ ศักดิ์สิทธิ์พระคู่บ้าน คู่เมือง ซึ่งพิธีสรงน้ำพระคำตันทองคำ จะจัดเพียงปีละครั้ง

หรือ 1 ปี มีครั้งเดียวก็จะมีชาวบ้านไทยพวนมาร่วมสรงน้ำพระขอพรให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ซึ่งระหว่างที่ชาวบ้านสรงน้ำพระอยู่นั้น ฝนก็ตกโปรยปรายลงมาราวกับปาฏิหาริย์แบบไม่น่าเชื่อ ถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ชาวไร่ ชาวนาจะได้ไถนาปลูกข้าว เชื่อพิธีสรงน้ำพระคำตันนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
ด้านนายอรุณ บ้านใหม่ อายุ 71 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน กรรมการวัดศรีมงคล เล่าว่า ตามประวัติพระคำตัน ทองคำ มีอายุกว่า 200 ปี ชาวไทยพวนในจังหวัดนครนายกเชื่อกันว่าอพยพเข้ามาในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีประมาณปี พ.ศ.2322

เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงโปรดเกล้าฯให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ยกทัพไปตีเมืองเวียงจันทร์และหัวเมืองต่างๆ ซึ่งมีชื่อเรียกรวมกันว่าหัวพันทั้งห้าทั้งหก
ชาวพวนได้ถูกต้อนมาอยู่ในไทย คือเมือง สระบุรี ลพบุรี ฉะเชิงเทรา และนครนายก ซึ่งจังหวัดนครนายกก็จะมีชาวไทยพวนแบ่งออกเป็นชุมชนและที่วัดคลองคล้าแห่งนี้ ก็จะมีกลุ่มไทยพวนมากสมควรที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานกันที่นี่

เชื่อว่าพระคำตันได้ติดตัวชาวไทยพวนที่อพยพมาเป็นพระที่ถูกใจและเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวไทยพวนซึ่งทุกปีช่วงสงกรานต์จะมีการสรงพระคำตัน ขอพรในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะตรงกับเดือนหกของไทยก็จะมีการสรงน้ำพระคำตัน ขอพรให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ซึ่งพระคำตันทองคำนั้นมีเพียงแค่ 10 องค์ และเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ที่ชุมชนไทยพวนชาวคลองคล้านับถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของไทยพวนตราบนานเท่านาน


สัมภาษณ์ นางนพพร เกษาชาติ ผู้ใหญ่บ้าน

สัมภาษณ์ พล.ต.ต.สุรพล บุญมา (ผู้การแดง)

เนรมิต มงคลกิตติกานต์
รัชชานนท์ เนินใหม่
ข่าวจังหวัดนครนายก

Exit mobile version