นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

นครราชสีมา – ทำแผนรุ่นพี่โหดชกน้องเปรมเสียชีวิต แจ้งข้อหาเพิ่มทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล เจ้าของไร่อ้อยเตรียมเอาผิดข้อหาบุกรุก

นครราชสีมา – ทำแผนรุ่นพี่โหดชกน้องเปรมเสียชีวิต แจ้งข้อหาเพิ่มทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล เจ้าของไร่อ้อยเตรียมเอาผิดข้อหาบุกรุก

วันที่ 17 มีนาคม 2565 ความคืบหน้าคดีรุ่นพี่รับน้องโหด ทำให้นายพัดยศ ชลภักดี หรือน้องเปรม อายุ 19 ปี นักศึกษาปี 1 ปวส.ช่างกลโรงงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา ถูกชกที่หน้าอกเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นรุ่นพี่ 7 คน ถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย (น้องเปรมเสียชีวิต) ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ (รุ่นน้องบาดเจ็บ 2 คน) และผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ (มั่วสุมดื่มสุรา) ล่าสุดพนักงานสอบสวนควบคุมตัว 7 รุ่นพี่ อายุ 20 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุบริเวณไร่อ้อยโล่งเตียน บ้านโคกมะกอก หมู่ 14 ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ห่างจากรั้วมหาวิทยาลัย 20 กิโลเมตร โดยรุ่นพี่ 6 คน ผลัดกันใช้หมัดชกที่หน้าอกและหน้าท้องของน้องเปรมคนละ 1 หมัด ส่วนอีกคนสั่งให้คลานปลาหมอ เป็นกิจกรรมรับน้องช่วง 2 ทุ่มจนถึง 6 ทุ่ม น้องเปรมถูกชกจนหมดสติ ชักเกร็ง พาส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตช่วง 5 ทุ่ม คืนวันที่ 13 มีนาคม ใช้เวลาทำแผน 10 นาที ก่อนให้ผู้ปกครองพากลับบ้าน โดยไม่มีการควบคุมตัว เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับกลุ่มรุ่นพี่ ชั้นปี 2 ทั้งหมด 25 คน ฐานความผิดทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล กรณีสั่งให้รุ่นน้องถอดเสื้อผ้า เปลือยกายล่อนจ้อนขณะทำกิจกรรมรับน้อง ซึ่งความผิดดังกล่าวรุ่นพี่ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน และกำลังพิจารณาความผิดอื่น ๆ อีกเพื่อให้การดำเนินคดีครอบคลุมทุกประเด็น อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา

สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดการทำสำนวนคดีอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมประสานผู้ปกครองนักศึกษารุ่นพี่ 7 คน และเจรจาการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวน้องเปรมผู้เสียชีวิต ขณะที่ผู้ปกครองรุ่นพี่คนอื่น ๆ พร้อมแสดงความรับผิดชอบ ช่วยเหลือเรื่องเงินเยียวยาตามความเหมาะสม

ด้าน นายศรัณย์ อ่องพิมาย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 บ้านโคกมะกอก เจ้าของไร่อ้อยจุดที่จัดกิจกรรมรับน้อง เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุช่วงค่ำ ๆ พบเห็นกลุ่มนักศึกษาจำนวนมากนั่งรถกระบะอัดแน่น ผ่านเข้ามาในพื้นที่ แต่ไม่ทราบว่าไปทำอะไรกัน จนกระทั่งทราบข่าวว่ามีการไปรับน้องในไร่อ้อยพื้นที่ของตน จนถึงแก่ความตาย โดยกิจกรรมรับน้องไม่ได้มีการขออนุญาตใช้พื้นที่แต่อย่างใด รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กำลังปรึกษากับญาติว่าอาจจะต้องแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มรุ่นพี่ข้อหาบุกรุกใช้สถานที่ โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างกับคนอื่นต่อไป

ภาพ/ข่าว อภิรักษ์ ศรีอัศวิน ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา

Exit mobile version