(มีคลิป) วิกฤตช้างชราที่ปางช้างแม่สา สัตวแพทย์ต้องใช้สูตรอาหารเหลวรักษาชีวิตช้าง

วิกฤตช้างชราที่ปางช้างแม่สา สัตวแพทย์ต้องใช้สูตรอาหารเหลวรักษาชีวิตช้าง

เช้าวันที่ 15 ธันวาคม 2564 นางอัญชลี กัลมาพิจิตรได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวถึงอาการป่วยของช้างชราหลายเชือกที่ปางช้างแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ แหล่งเลี้ยงช้างขนาดใหญ่ของประเทศไทยที่ดูแลช้างมากถึง 70 เชือก เนื่องจากปางช้างแห่งนี้เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 ทำให้ในปัจจุบันมีช้างชรามากถึง 15 เชือก โดยช้างที่อายุมากที่สุดชื่อพลายคำหมื่น อายุ 84 ปี ช้างเหล่านี้ปางช้างต้องเลี้ยงดูจนช้างล้มตายจากไป ผู้บริหารปางช้างจึงได้สร้างบ้านพักช้างชราแยกออกมาจากตัวปางช้าง ซึ่งบ้านพักช้างชราจะมีทั้งโรงเรือนที่พักช้าง บ้านพักควาญ ห้องเก็บสต๊อกอาหาร เครื่องปั่นหญ้า ซองหรือช่องรักษาช้าง และยารวมถึงอุปกรณ์การช่วยเหลือช้างในการรักษาโรคต่างๆในช้างชราของทีมสัตวแพทย์

ในขณะนี้มีช้างที่มีอาการค่อนข้างวิกฤตอยู่สองเชือก คือพังน้อย วัย 60 ปี ที่ล้มลงนอนแล้วลุกไม่ขึ้นมาแล้วสองครั้ง ส่วนพังจันทร์ วัย 65 ปี ล้มลงนอนแล้วลุกไม่ขึ้นถึงสามครั้งด้วยกัน จึงทำให้ช้างทั้งสองเชือกในวัยคุณยาย ไม่ยอมล้มลงนอนอีกต่อไป แต่เลือกที่จะยืนหลับแทน เมื่อวานนี้ พังน้อยมีอาการวูบจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ สัตวแพทย์ได้รักษาด้วยการเติมน้ำเกลือและยาบำรุง พังน้อยซึ่งมีอาการเจ็บขาหลังด้านซ้ายมายาวนาน ทำให้ยืนได้ไม่ดี ทีมควาญช้างจึงได้ย้ายช้างเข้าซองรักษาที่มีขนาดพอดีกับตัวช้าง ช้างสามารถพิงตัวอยู่ในซองได้ นอกจากนี้สัตวแพทย์ยังตรวจพบอาการผิดปกติในช่องปากเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากฟันผุ ทำให้พังน้อยมีน้ำลายไหลย้อยตลอดเวลา และมีอาการเจ็บลิ้นร่วมด้วย ทางด้านการรักษาจึงต้องล้วงเอาเศษอาหารที่อุดตามซอกฟันออกและล้างด้วยน้ำ งดการให้กินหญ้า และเริ่มทำการผสมกล้วยสุกปั่นกับน้ำ ผสมเข้ากับอาหารเม็ดให้ช้างกินแทน นับเป็นครั้งแรกที่ทางปางช้างต้องปรับการรักษาที่ยากขึ้น เพราะช้างหนึ่งเชือกต้องกินอาหารมากถึง 10% ของน้ำหนักตัว ช้างพังมีน้ำหนักมากกว่า 2,000 กิโลกรัม การบดกล้วยต้องทำวันละ 200 กิโลกรัม

ซึ่งทีมสัตวแพทย์ประจำปางช้าง น.สพ.รณชิต รุ่งศรี และ สพ.ญ.พิชามญชุ์เอื้องไพบูลย์ จะต้องให้น้ำเกลือและยาบำรุงร่วมด้วยเป็นระยะๆ เพื่อรักษาชีวิตช้างเอาไว้ อาหารเสริมที่ต้องจัดเตรียมให้พังน้อยในแต่ละวันประกอบไปด้วย ข้าวเหนียวนึ่งวันละ 10 กิโลกรัม, กล้วยน้ำว้าสุกประมาณ 200 กิโลกรัมและอาหารเม็ดยี่ห้อช้างเอราวัณอีก 10 กิโลกรัม

และในระหว่างวันที่ 30 -31 ธันวาคม 2564 และวันที่ 1 มกราคม 2565 ปางช้างแม่สาปิดให้บริการเป็นเวลา 3 วันและจะเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 2 มกราคม 2565 ทั้งนี้หากท่านใดต้องการช่วยเหลือช้าง สามารถอุดหนุนซื้อตะกร้าอาหารเลี้ยงช้างได้ ในราคาตะกร้าละ 100 บาท หรือช่วยเหลือและสนับสนุนในการซื้ออาหารและยาสมุนไพรช้าง อาหารช้างเอราวัณ15 กก. กระสอบละ 365 บาท, งาดำ 50 กก. กระสอบ 4, 000 บาท, ข้าวเหนียวหักท่อน กระสอบละ 730 บาท, มะขามเปียก กระสอบละ 350 บาท, เกลือ 20 กก. กระสอบละ 120 บาท โดยสามารถโอนผ่านบัญชี ชื่อ มูลนิธิอนุรักษ์ช้างไทย Elephant Conservation Foundation ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขากาดสวนแก้ว หมายเลขบัญชี 531 0 66551 7 หรือสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ปางช้างแม่สา ได้ที่คุณรัตนา ศรีหมอก ผู้จัดการปางช้างแม่สา เบอร์โทร 081-882-3738 และ089-838-4242 นางอัญชลี กล่าว.

ทรงวุฒิ ทับทอง

Shongwut Admin_Chiang Mai

See author's posts