นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

ตำรวจภูธรภาค 5 ชี้แจงกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างเรื่องหวังรีดไถ่และข่มขู่โดยอ้างเป็นตำรวจสภ.เมืองเชียงใหม่

ตำรวจภูธรภาค 5 ชี้แจงกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างเรื่องหวังรีดไถ่และข่มขู่โดยอ้างเป็นตำรวจสภ.เมืองเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ตามที่ปรากฏในสื่อของ “ ข่าวสด ออนไลน์ ” เรื่อง “ ต้อม เรนโบว์ เตือนภัยมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นตำรวจสร้างเรื่องหวังรีดไถ ” โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้โทรมาเป็นเจ้าหน้าที่ DHL บอกว่ามีพัสดุที่ผิดกฎหมาย และพยายามต่อสายตำรวจไปที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยข่มขู่ว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับผู้ค้ายาเสพติด และฟอกเงิน ซึ่งจะโดนอายัดบัญชีธนาคารนั้น ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้สั่งการให้ สภ.เมืองเชียงใหม่ ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และรายงานผลให้ทราบดังนี้
สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รายงานข้อเท็จจริงว่ากรณีมิจฉาชีพนำชื่อของ สภ.เมืองเชียงใหม่ ไปใช้โดยมีการปลอมบัญชี Line ของ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิง ซึ่งมิจฉาชีพหาข้อมูลเหยื่อมาจากการซื้อของออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต หลังจากที่ได้ข้อมูลเหยื่อมาแล้ว จะโทรศัพท์มาหาเหยื่อโดยใช้เบอร์โทรที่ไม่สามารถติดต่อกลับมาได้ เช่น การโทรผ่าน Skype เมื่อเหยื่อรับสาย มิจฉาชีพคนแรกเป็นหญิง จะอ้างตัวเองว่าเป็นพนักงาน DHL ในจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งกับเหยื่อว่ามีพัสดุตีกลับโดยพัสดุดังกล่าว ส่งไปหาคนจีน มีชื่อเหยื่อเป็นผู้ส่ง เปิดกล่องพัสดุพบว่ามีพาสปอร์ต บัตรเอทีเอ็ม และเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว ทาง DHL ได้แจ้งให้ สภ.เมืองเชียงใหม่ ทราบและอาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงิน และ ส่งต่อ(โอนสาย) ให้มิจฉาชีพ คนที่ 2 (ผู้ชาย)ซึ่งเล่นบทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ขอให้เหยื่อแอดไลน์ของ สภ.เมืองเชียงใหม่ (Lineปลอม) จากนั้นมิจฉาชีพคนที่ 2 จะคุยผ่านแอพ Line พยายามยัดเยียดความผิดให้เหยื่อว่า เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และยาเสพติด ขอตรวจสอบบัญชี โดยให้เหยื่อ แจ้งบัญชีธนาคารและจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีให้ทราบ จากนั้นออกอุบายให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่ทางมิจฉาชีพได้จัดเตรียมไว้ โดยอ้างว่า จะนำเงินมาตรวจสอบแล้วจะคืนให้ หากเหยื่อหลงเชื่อก็จะโอนเงินให้กับมิจฉาชีพดังกล่าว

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเหยื่อหรือผู้เสียหาย ได้ติดต่อมาทาง สภ.เมืองเชียงใหม่ ผ่านระบบ Line OA และ Facebook ของ สภ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประชาสัมพันธ์และแจ้งข้อเท็จจริงให้ทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำของมิจฉาชีพ โดย สภ.เมืองเชียงใหม่ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพียงแต่ว่ามิจฉาชีพได้นำชื่อ “สภ.เมืองเชียงใหม่” ไปแอบอ้างเพื่อให้เหยื่อเชื่อถือ จึงได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความที่สถานีตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ของตนเอง ในส่วนของ สภ.เมืองเชียงใหม่ ที่ถูกแอบอ้างชื่อและนำเชื่อไปใช้ ได้ทำการประชาสัมพันธ์ในทุกช่องทาง ทุกสื่อ ของ สภ.เมืองเชียงใหม่ ที่มีอยู่เพื่อไม่ให้ประชาชนได้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 จึงได้ฝากเตือนมายังพี่น้องประชาชนหากได้รับโทรศัพท์หรือการติดต่อจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในลักษณะดังกล่าว ขอพี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ ซึ่งสถานีตำรวจทุกแห่งในพื้นที่รับผิดชอบในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 ไม่มีวิธีการติดต่อผู้เสียหาย เพื่อให้โอนเงินในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้หากท่านเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายหรือพบเห็นการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว ขอท่านได้รวบรวมพยานหลักฐานนำไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจใกล้บ้านท่าน หรือโทรศัพท์แจ้งสายด่วน 191 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง.

ทรงวุฒิ ทับทอง

Exit mobile version