นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

คืบหน้า คนขับรถโรงงานหื่นบีบคอบังคับสาวโรงงาน หวังข่มขืน

จากกรณี น.ส.พิมพ์ลดา บุญลือ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 12 ต. และ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย สาวโรงงาน นั่งรถรับส่งพนักงานกลับจากที่ทำงานในเขต ตำบลหนองชาก เพื่อกลับบ้านพักและในระหว่างทาง หลังจากส่งพนักงานลงจนเหลือแต่ น.ส.พิมพ์ลดา เพียงคนเดียวได้จอดรถและปลุกปล้ำบีบคอลากลงข้างทางพยายามข่มขืน จนต้องดิ้นรนและหลอกล่อเอาตัวรอด นั่งรถยนต์กระบะคู่มาด้านหน้าด้วย เผอิญผู้ก่อเหตุขับรถชนรถ จยย. ของ จนท.กู้ภัยฯ ที่จอดอยู่ข้างทาง จึงอาศัยจังหวะเผลอเปิดประตูรถวิ่งลงมาขอความช่วยเหลือรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ก่อนคนร้ายจะขับรถย้อนศรหลบหนีไป และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถติดตามตัวไว้ได้ ทราบต่อมาชื่อ นายสรกฤช พุ่มจันทร์ อายุ 30 ปี เหตุเกิดบน ถนนสาย บ้านบึง-พนัสนิคม หมู่ที่ 3 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 16 ต.ค.64 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 17 ต.ค.64 พ.ต.ท.ศรัณยพงศ์ อังคะนาวิน สารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านบึง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านบึง นำตัวนายสรกฤช ผู้ต้องหามาชี้จุดเกิดเหตุที่ลงมือทำร้ายผู้เสียหายและลาก น.ส.พิมพ์ลดา ผู้เสียหายไปในป่าหญ้าข้างทางเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา จนโทรศัพท์มือถือ น.ส.พิมพ์ลดา หล่นหาย ซึ่ง จนท.อาสาหน่วยกู้ภัยฯ ได้ช่วยกันค้นหาจนพบ ส่วนอีกจุดหนึ่งเป็นจุดที่คนร้ายขับรถไปชนกับรถของอาสากู้ภัยฯ ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุอยู่ จนผู้เสียหายใช้จังหวะรถจอดวิ่งลงมาขอความความช่วยเหลือ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยนาย สรกฤช ยังให้การณ์วกไปวนมา และยังอ้างว่าผู้เสียหายเหมือนแฟนเก่า จึงอยากให้มาอยู่ด้วย แต่ผู้เสียหายขัดขืนจึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว

นายศิริชาติ ดีขยัน อาสากู้ภัยที่รถจักรยานยนต์ ถูกรถของผู้ต้องหาขับชน เผยว่าในขณะเกิดเหตุได้นำรถจักรยานยนต์ เปิดไฟจราจรให้การช่วยเหลือ เหตุรถชนกันอยู่กลางถนน และเห็นว่ารถกระบะคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็ว จึงพยายามส่งสัญญาณให้ชลอรถ แต่กลับวิ่งเข้ามาชนจนรถไม่สามารถผ่านไปได้ และผู้เสียหายได้วิ่งลงจากรถมาขอความช่วยเหลือ ส่วนผู้ต้องต้องหาได้ขับรถย้อนหลบหนีไป จึงแจ้งให้ นายกล้า ขันตี อาสากู้ภัยฯ นำผู้เสียหายส่งโรงพยาบาลและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ จนสามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว

ทางด้าน นางสาว พิมพ์ลดา บุญลือ ได้มาชี้จุดเกิดเหตุหลังถูกผู้ต้องหาทำร้าย ซึ่งยังอยู่ในอาการขวัญผวาไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลอะไร นายทัชรินทร์ บุญลือ อายุ 46 ปี ลุงของผู้เสียหายกล่าวว่า ต่อจากนี้คงไม่ให้หลานสาวกลับไปทำงานที่เดิมอีกแล้ว เนื่องจากไม่ปลอดภัย สงสารหลานที่ต้องการทำงานหาเงินเพื่อส่งตัวเองเรียน ในระดับปริญญาโท แต่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ พร้อมกับขอชื่นชมและขอบคุณ จนท.อาสากู้ภัย พลเมืองดี และหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง ที่เข้าช่วยเหลือและจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว ได้ตั้งข้อกล่าวหา กระทำอนาจาร ทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ เสพสารเสพติดและขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี จ.ชลบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

 

Exit mobile version