
“พล.ต.ท.ปิยะ” ผบช.ภ.5 แถลงข่าวจับกุม หนุ่มสาวร่วมเพศใต้ต้นยางนา อ.สารภี
สืบเนื่องจาก ศปอส.ภ.5 ได้ตรวจสอบพบมีการถ่ายทำคลิปวิดีโอลามก อนาจารนอกสถานที่แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย มากกว่า 70 คลิป
เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2564 ที่ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัยผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.บัญชา อินถา ผกก.สภ.สารภี จว.เชียงใหม่, พ.ต.อ.วชิรศักดิ์ ศรีประสม ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.5 สืบสวน เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.5 แถลงข่าวหนุ่มสาวร่วมเพศใต้ต้นยางนา อ.สารภี จับกุมผู้ต้องหา 2 คน นาย เอ (นามสมมติ)และนางสาว บี (นามสมมติ) เชื้อชาติ/สัญชาติ ไทย ข้อหาตาม ประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 287 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์ นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และ มาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
พฤติการณ์ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. สืบสวน ปรามปราบ อาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งพบว่าปัจจุบันมีผู้เสียหายจำนวนมาก ทั่วประเทศ และมีบางส่วนมาร้องทุกข์กับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) กรณี ศปอส.ภ.5 ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ทำการตรวจสอบข่าว ที่มีประชาชนให้ความสนใจกับเฟซบุ๊กไทยรัฐ ออนไลน์ ที่มีหัวข้อข่าวว่า “เชื่ออาถรรพ์หนุ่มสาวร่วมเพศใต้ต้นยางนา ทำโค่นทับศาลหลักเมืองพัง” หรือ URL(https://www.thairath.co.th/news/local/north/2209451?fbclid=IwAR047Rg8Tr9ypnnXr-hsu-Z4KTW_gxgjUFfqBMSNAc_Qbh5CDSqxJEIWOuE) โดยคลิปที่เกี่ยวข้องกับข่าวที่ ไทยรัฐ ออนไลน์ นำมาออกข่าวคือ https:// www.xvideos.com/video64982243 ในช่อง Hasoatang (ช่องดังกล่าวใช้โลโก้เป็นรูปตัวอักษรภาษาอังกฤษชื่อ THPB) ในชื่อคลิป “บอกให้ไปส่งคอนโด แต่แกร๊บเห็นเธอเมาเลยจับเย็ดข้างทาง” สถานที่กระทำผิด สายต้นยาง เชียงใหม่-ลำพูน หน้าแขวงการทาง ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ (พิกัด 18.694284, 99.044655) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 สืบสวนติดตามผู้เกี่ยวข้องกับคลิป ดังกล่าว ต่อมา พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 จึงได้มอบหมายให้ ศปอส.ภ.5 สืบสวนติดตามผู้เกี่ยวข้องจนทราบพฤติการณ์ของผู้เกี่ยวข้องกับคลิปวิดีโอดังกล่าว ศปอส.ภ.5 จึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกด้าน จนทราบว่าบุคคลในคลิปวิดีโอ คือ นาย เอ (นามสมมติ) และ นางสาว บี (นามสมมติ) จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีข้อหา ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 287 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
ต่อมา เมื่อวันที่ 4 ต.ค.64 จนท.ศปอส.ภ.5 จึงได้เชิญตัว นาย เอ (นามสมมติ) และ นางสาว บี (นามสมมติ) มาซักถาม โดยนาย เอ (นามสมมติ) ให้การรับสารภาพว่าตนเองมีความเชี่ยวชาญทางด้านคอมพิวเตอร์, เป็นสามีของ นางสาว บี (นามสมมติ) และเป็นชายไทยในคลิปวิดีโอลามก อนาจาร จริง ส่วนนางสาว บี (นามสมมติ) เป็นหญิงไทยในคลิปวิดีโอที่มีเพศสัมพันธ์ตามที่เฟซบุ๊กไทยรัฐ ออนไลน์ ที่มีหัวข้อข่าวว่า “เชื่ออาถรรพณ์หนุ่มสาว ร่วมเพศใต้ต้นยางนา ทำโค่นทับศาลหลักเมืองพัง” ลงโพสต์ไว้ อีกทั้งพบเส้นทางการเงินที่ได้จากการรับสมัครให้เข้าชมคลิปวิดีโอการมีเพศสัมพันธ์ มีการจัดทำคลิปวิดีโอลามกอนาจารนอกสถานที่ แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย มากกว่า 70 คลิป จากคลิปวิดีโอดังกล่าวทำให้ภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่เสื่อมเสีย ประชาชนชาวเชียงใหม่ไม่พอใจกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนี้ และหวั่นจะมีผลกระทบต่อวัฒนธรรมประเพณีของชาวล้านนา อีกทั้งกลุ่มผู้ต้องหายังได้รับผลประโยชน์จากการกระทำความผิดดังกล่าว เห็นควรดำเนินการตามกฏหมายจนถึงที่สุด
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ขอแนะนำประชาชนเกี่ยวกับการเผยแพร่คลิปวิดีโอลามก อนาจารนอกสถานที่ แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย ดังน ี้การเผยแพร่ภาพอนาจารเป็นความผิดอาญาทั้งคนถ่าย ผู้เผยแพร่ ผู้ตั้ง กรุ๊ปขายรูป และที่สำคัญแม้ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดโดยตรง แต่แค่ เข้าไปคอมเมนต์ก็อาจทำให้มีความผิดได้, สำหรับคนถ่าย อาจเข้าข่ายความผิดทั้งฐานอนาจาร ฐานถ่ายภาพ และ ฐานครอบครองสื่อลามกอนาจ, การโพสต์ลงโซเชียล เข้าข่ายความผิดส่งต่อสื่อลามกอนาจารให้คนอื่นตามประมวลกฎหมายอาญา และยังเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, ตั้งกลุ่มขายภาพอนาจาร หากดูแล้วมีเจตนาถ่ายภาพเพื่อขาย-แสดงอวด แก่ประชาชน ระวางโทษจำคุก, ถ้าพบภาพที่เขาโพสต์มามีข้อความ(ลามก) เราไม่ควรส่งต่อ เพราะถ้าส่งต่อเท่ากับเราสนับสนุน ภายหลังจากที่แถลงข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนนำส่ง พนักงานสอบสวนสภ. สารภีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ทรงวุฒิ ทับทอง