นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

นายก ทต.เชียงขวัญ อ.เชียงขวัญร้องสื่อฯคดีไม่คืบ กรณีลักตัดต้นยางกว่า 100 ปี ในดอนปู่ตา ผ่าน 1 เดือน คดีไม่คืบหน้า

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564 นายสำราญ แสนมณี นายกเทศมนตรีตำบลเชียงขวัญ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อม นายสมหมาย แสงสวัสดิ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลเชียงขวัญ นายเฉลียว เวียงสมุทร รองนายกเทศมนตรีตำบลเชียงขวัญ นายณัชกฤศ กิติธนภ์กร ปลัดเทศบาลตำบลเชียงขวัญ และตัวแทนชาวบ้านโพธิ์กลาง ได้ร่วมกันชี้จุดที่ถูกลักลอบตัดต้นยาง อายุกว่า 100 ปี จำนวน 7 ต้น ภายในป่าดอนปู่ตา(เถ้าเจ้าโฮงแดง) บ้านโพธิ์กลาง หมู่ 3 ตำบลเชียงขวัญ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายหนูดี ขาวศรี อายุ 70 ปี เฒ่ากระจ้ำ ประจำดอนปู่ตา ให้ข้อมูล
นายหนูดี ขาวศรี (เฒ่ากระจ้ำ)เปิดเผยว่า ป่าดอนปู่ตามีต้นยางขนาดใหญ่อายุระหว่าง 100-200ปี นับ 20 ต้น เหตุเกิดเวลาเวลาประมาณ 17.00 น วันที่ 23 ก.ค. 2564 ตนได้เดินทางมาจากหมู่บ้านมาที่ศาลเจ้าปู่ ก็พบต้นยางถูกตัดกองระเนระนาดเต็มดอนปู่ตา จากการสอบถามชาวบ้านก็ไม่ทราบว่าผู้ไดมาตัดไป เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวชาวบ้านออกไปทุ่งนาไม่มีผู้พบเห็นกลุ่มก่อเหตุ ชาวบ้านที่มีทุ่งนาใกล้ดอนปู่ตาเห็นรถหกล้อ 1 คัน บรรทุกไม้ออกไปเต็มคันรถ ซึ่งในขณะนั้นก็ไม่ทราบว่าเป็นไม้ที่ถูกตัดจากดอนปู่ตา ตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ พบว่าต้นยางอายุนับร้อยปี ขนาด 3 คนโอบ สูงกว่า 70 เมตร ถูกตัดไปจำนวน 7 ต้น ส่วนท่อนไม้ที่เหลือจากการลักลอบตัดบางส่วน หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รอ. 1 (ดงมะอี่) ได้ตรวจยึดไว้ พร้อมจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เชียงขวัญ ให้ติดตามคนร้ายกลุ่มดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายสำราญ แสนมนตรี นายก ทต.เชียงขวัญ กล่าวว่า ตามที่ได้รับแจ้งจากประชาชน ว่าได้มีการตัดต้นไม้ยางซึ่งเป็นไม้หวงห้ามใน 158 ชนิด ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2584 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 7 ต้น ในพื้นที่สาธารณะ ดอนเจ้าปู่ เผ้า เจ้าโฮงแดง หมู่ที่ 3 บ้านโพธิ์กลาง ตำบลเชียงขวัญ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยไม่ได้รับอนุญาต
สำนักงานเทศบาลตำบลเชียงขวัญ อำเภอเชียงขวัญ ปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีหน้าที่ดูแลและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่ให้ถูกทำลาย และยังเป็นหน่วยงานที่คอยส่งเสริมสนับสนุนให้มีการปลูกป่าและอนุรักษ์ป่าให้คงอยู่กับชุมชน และเหตุการณ์ดังกล่าวที่ เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่จงใจฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ จึงดำเนินการทำหนังสือร้องเรียนไปยังนายอำเภอเชียงขวัญ และเข้าแจ้งความดำเนินกับพนักงานสอบสวน สภ.เชียงขวัญ เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฏหมาย แต่ผ่านมาเกือบ 1 เดือนก็ยังไม่มีความคืบหน้าหรือเบาะแสคนร้าย จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามคดีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย

สุเทพ ลอยแก้ว/รายงาน

 

Exit mobile version