ตร.ปทส.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ยึดไม้เถื่อนเร่งติดตามตัว 2 ผู้ต้องหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่ม
สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้แม่แจ่ม เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรแม่แจ่ม ยึดไม้เถื่อน พร้อมออกหมายจับ นายทุนบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่ม พร้อมของกลาง ไม้สักแปรรูป ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 69 แผ่นและไม้รังแปรรูป จำนวน 32 แผ่น อาวุธปืนยาวแบบไทยประดิษฐ์ และเลื่อยโซ่ยนต์ แจ้งข้อหา แปรรูปไม้ มีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนสามารถออกให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ ชุดพญาเสือสนธิกำลังร่วม 200 นาย ไล่ล่าขบวนการค้าไม้เถื่อนในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม ยึดได้แต่ไม้ประดู่แปรรูป 11 แผ่น ส่วนผู้ต้องหาไหวตัวทัน พบผู้ต้องหาทั้ง 2 เคยถูกจับในคดี ลักลอบตัดไม้ และคดียาเสพติด และมีการจ้างแรงงานทำไม้แลกกับยาเสพติดด้วย
พ.ต.ต.ชานนท์ รัตนประทีป สว.กก. 4 บก.ปทส. นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กก.4 บก.ปทส 4 .เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการตระเวนชายแดนที่ 33 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้แม่แจ่ม , เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าตำรวจภูธร ภาค 5 , เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรแม่แจ่ม ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่แจ่ม ลงพื้นที่ ตรวจสอบบ้านกระท่อมไม่ทราบเลขที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่ม ท้องที่หมู่ 6 บ้านอมตูม ต.กองแขก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ยึดของกลาง ไม้สักแปรรูป จำนวน 4 แผ่นวางกองซุกซ่อนอยู่บริเวณใต้ถุนกระท่อม , ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 65แผ่น ซุกซ่อนอยู่บริเวณใต้ถุนกระท่อม และพบวางปูพื้นทับไม้ฝากปูพื้น , อาวุธปืนยาวแบบไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก , เลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง , สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารนายสมยศ ยิ่งสวัสดิ์ , กระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ ภายในกระเป๋าพบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้ถือบัตรนายสมยศ ยิ่งสินสวัสดิ์
พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.4 บก.ปทส.4 ได้ลงพื้นที่หาข่าวการลักลอบบุกรุกป่าท้องที่อำเภอแม่แจ่ม ได้มีกลุ่มบุคคลผู้ร่วมขบวนการทำไม้ผิดกฎหมายและเป็นขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ ได้นำรถยนต์บรรทุกไม้แปรรูปจากพื้นที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ไปยังโกดัง ไม่ทราบชื่อ ท้องที่ ต.ชมพู อ.เมือง จังหวัดลำปาง ต่อมาเจ้าหน้าที่ขอหมายศาลตรวจค้น พบไม้ประดู่แปรรูปจำนวน 105 แผ่นและเข้าตรวจยึดก่อนจะขยายผลเข้าตรวจค้นบริเวณดังกล่าวและตรวจยึดของกลางทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่านายสมยศ ยิ่งสวัสดิ์ เคยถูกจับคดียาเสพติด เมื่อปี 2561 และมีการจ้างแรงงานทำไม้เถื่อนแลกกับยาเสพติดด้วย
ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะขอหมายจับกับนายสมยศ ยิ่งสวัสดิ์ พร้อมแจ้งข้อหา มีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้หวงห้ามแปรรูปชนิดอื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , แปรรูปไม้ มีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนสามารถออกให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่นายประกาศิต ระริวรรณ เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยฯ พญาเสือ) กำลังเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ , เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.17 พร้อมกับ , เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 รวม 200 นายพร้อมหมายศาล เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 151 หมู่ที่ 6 ต.กองแขก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พบไม้ประดู่แปรรูป 11 แผ่น รถยนต์โตโยต้า หมายเลขทะเบียน บย 2642 ลำพูน 1 คัน , อาวุธปืนยาวแบบไทยประดิษฐ์ และปืนยาวอัดลม พร้อมทั้งเลื่อยโซ่ยนต์ และตรวจพบไม้หวงห้ามแปรรูปอีกจำนวน 1 กอง ซุกซ่อนอยู่ในป่าใกล้ ๆ กับบ้านที่เกิดเหตุ
โดยเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจยึดไม้ประดู่แปรรูป 105 แผ่น ที่โกดัง ไม่ทราบชื่อ ท้องที่ ต.ชมพู อ.เมือง จังหวัดลำปาง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า รถยนต์ที่บรรทุกไม้ประดู่แปรรูปไปยังโกดังหลังดังกล่าวเป็นรถยนต์คันยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ยค 6799 เชียงใหม่ เป็นของ นายเกียรติศักดิ์ กอสิริพนา อยู่บ้านเลขที่ 151 หมู่ที่ 6 ต.กองแขก อ.แม่แจ่ม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขยายผลตรวจค้นบ้านนายเกียรติศักดิ์ กอสิริพนา แต่เจ้าของบ้านไหวตัวทันหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา มีไม้หวงห้ามแปรรูปชนิดอื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหา เคยถูกจับคดีเกี่ยวกับการทำไม้ , ครอบครองไม้หวงห้ามผิดกฎหมาย 2562 ในท้องที่ อ.อมก๋อย ก่อนจะย้ายถิ่นฐานมามีครอบครัวใหม่ และลักลอบตัดไม่ในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม ก่อนที่จะเร่งติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป.
ทรงวุฒิ ทับทอง