นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

สกุล ธนาอัครชล ร่วม สกุลโขนแจ่ม และผู้มีจิตศรัทธาทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างกุฏิสงฆ์ 5 หลัง กว่า 4.8 แสน

เมื่อ 27 มิ.ย.64 นายภาค ธนาอัครชล ประธาน บริษัท หมู่บ้านสิริศา จำกัด ร่วมกับ นาย เฉลิมพล โขนแจ่ม ประธาน บริษัท บ้านอำเภอเทรคดิ้ง จำกัด ในฐานะประธานอุปถัมภ์ร่วมกับผู้ใจบุญนำคณะร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างกุฏิสงฆ์ จำนวน 5 หลัง ณ สำนักปฏิบัติธรรมป่านะฤาชา ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ที่ทางวัดกำลังพัฒนาแต่ยังขาดทุนทรัพย์ ในการสร้างกุฏิสงฆ์เพื่อใช้ประกอบศาสนกิจ จำนวน 350,000 บาท โดยได้ร่วมบอกบุญและเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธา ร่วมแรงร่วมใจเป็นเจ้าภาพในการสมทบทุน ทอดผ้าป่าสามัคคีได้ปัจจัยในครั้งนี้เพิ่มอีก จำนวน 135,945 บาท เพื่อนำไปเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายภายในสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ รวมแล้วเป็นยอดเงินร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีในวันนี้ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 485,945บาท

โดย นายกันต์ ธนาอัครชล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นำคณะประกอบด้วย นายศิริชัย ชลไพรพิมลรัตน์ หรือเสี่ยไช้ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของโครงการหมู่บ้านสิริศา คุณพ่อ นาง อำพัน ธนาอัครชล คุณแม่ นายกรณ์ ธนาอัครชล พร้อมครอบครัวอัครชล กำนัน วรฤทธิ์ จันทร์บวร กำนันตำบลบางเสร่ ผู้ใหญ่ สมใจ โชติช่วง ผู้ใหญ่ โสภณ บุญมี ผู้ใหญ่ ธีราภรณ์ กิมใช้ ผู้ใหญ่ พรพิทักษ์ ประจงศิลป์ ส.ท.บัณฑิต บุญโยประการ ส.ท.สมร บุญมี ส.ท.สังวาลย์ แจ้งเขียว ส.ท.นาวาตรี ธวัช คงศักดิ์ ส.ท.รุ่งรัตน์ ศรีประเสริฐ ส.ท.อรรถ จันทร์กระจ่าง ส.ท.สุรศักดิ์ ปิ่นบัว คุณวันเพ็ญ คชาทอง คุณประจักษ์ ศรีจินดา คณะกลองยาวบางเสร่ และนาวาตรี นิราช ทิพย์ศรี พร้อมคณะชมรมผู้สื่อข่าว-นักประชาสัมพันธ์ ภาคตะวันออก (จังหวัดชลบุรี) และเหล่าบรรดาพุทธศาสนิกชน ผู้มีจิตศรัทธาร่วมในพิธีและร่วมสมทบทุนทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

โดยพระอาจารย์ดรัมมี่ แห่งสถานปฏิบัติธรรมป่านะฤๅชา ได้มอบของที่ระลึกอันเป็นมหามงคล ให้กับผู้ร่วมพิธีในวันนี้ด้วย และด้วยอานิสงส์แห่งการกุศลอันยิ่งใหญ่นี้ ขอให้ทุกท่านและครอบครัวที่ร่วมในการทอดผ้าป่าสามัคคีนำปัจจัยสร้างกุฏิสงฆ์ในครั้งนี้ จงพบแต่ความสุขความเจริญ ด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง 4 ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ สรรพสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล ทุกประการ

ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี ผู้สื่อข่าว  จ.ชลบุรี
นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

Exit mobile version