นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

ตำรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ ร่วมปปส.ภาค 2 บูรณาการ ผู้นำชุมชนแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร สร้างเครือข่ายหมู่บ้านสีขาวปลอดยาเสพติด

ที่โรงเรียนบ้านคลองพลู ตำบลคลองพลู อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ตำตรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ ได้จัดทำโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดตามยุทธศาสตร์ชาติ และทำข้อตกลงให้ความร่วมมือ เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร โดยมี พ.ต.อ.ณพล นามนารถ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเขาคิชฌกูฏ พันตำรวจเอกฐนพงษ์ โพธิ์ที ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ ผู้แทนคุ้มต่างๆ ร่วมทำ MOU แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน

สืบเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในประเทศทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงได้กำหนดขึ้นเป็นวาระแห่งชาติและจัดทำเป็นแผนยุทธศาตร์ชาติ โดยร่วมมีอกับสำนักงานปปส. กอ.รมน. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เพื่อจะช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดสิ้นไปโดยมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นฝ่ายดำเนินงานทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี สถานีตำรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ ร่วมกับปปส.ภาค 2 ได้กำหนดพื้นที่บ้านหลังเนิน หมู่ที่ 8 ตำบลคลองพลู อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่เป้าหมายของโครงการโดยให้ สภ.เขาคิชฌกูฏ เป็นผู้ดำเนินโครงการและบูรณาการร่วมกับผู้นำศาสนา โรงเรียน ผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน อสม.ชาวบ้าน เยาวชนในชุมชน กว่า 80 คน มาร่วมรับฟังแนวทางการดำเนินการและรับฟังถึงปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งโครงการและจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและได้ร่วมกันทำ MOU และทำการเอกซ์เรย์พื้นที่ตามคุ้มต่างๆในหมู่บ้านไปจนถึงบุคคลเป้าหมาย เพื่อที่จะได้นำมาสู่ขบวนการฟื้นฟูบำบัด รับรู้ปัญหาของผู้เสพยาเสพติด เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง

และกำหนดเป้าหมายยาเสพติดต้องหมดไปภายใน 3 เดือน ซึ่งหลังจากผ่านกระบวนการแล้วจะมีคณะกรรมการจะพิจารณาร่วมกันและจะแจกบัตรพลเมืองสีขาวให้แก่ผู้ที่ผ่านการคัดกรองและแจกธงบ้านสีขาวให้แก่บ้านที่ปลอดยาเสพติดต่อมาเมื่อคุ้มต่าง ผ่านการคัดกรองก็จะติดป้ายคุ้มสีขาวสุดท้ายก็ติดป้ายหมู่บ้านสีขาวเพื่อเป็นการยืนยันดป็นหมู่บ้านปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืนต่อไป

ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา ผู้สื่อข่าวจ.จันทบุรี
นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

Exit mobile version