นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

งานเข้า! โควิด-19 ระลอกใหม่ พ่นพิษในเรือนจำ ผู้คุม+นักโทษติดเชื้อ 112 ราย เร่งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดพร้อมเปิด รพ.สนามรองรับ ด้าน ผอ.รพ.นราธิวาสฯ สั่งงดรับผู้ป่วยรีเฟอร์ หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 1

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

งานเข้า! โควิด-19 ระลอกใหม่ พ่นพิษในเรือนจำ ผู้คุม+นักโทษติดเชื้อ 112 ราย เร่งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดพร้อมเปิด รพ.สนามรองรับ ด้าน ผอ.รพ.นราธิวาสฯ สั่งงดรับผู้ป่วยรีเฟอร์ หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 1

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 6 ราย ซึ่งเป็นผู้ต้องขัง 5 คน และผู้คุม 1 คนจากเรือนจำกลางนราธิวาส อายุระหว่าง 20-42 ปี ที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมประกวดผลงานด้านการต่อต้านยาเสพติดของกรมราชทัณฑ์ ที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยจากการสอบสวนโรคระบุว่า เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 เวลา 20.00 น. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้รับรายงานจากโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ว่า มีผู้ป่วยซึ่งเป็นนักโทษจากเรือนจำกลางนราธิวาส เข้ารับการรักษาเนื่องจากมีอาการป่วย และผลการตรวจหาเชื้อเป็นบวก จำนวน 6 ราย ซึ่งทางโรงพยาบาลรับผู้ป่วยเข้ารักษาในห้องความดันลบแล้ว โดยผู้ต้องขังและผู้คุมจากเรือนจำกลางนราธิวาส จำนวน 8 ราย ได้เดินทางมาถึง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 เมษายน ซึ่งผู้ต้องขังได้เข้าพักค้างคืนที่เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ส่วนผู้คุมเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ต่อมาเรือนจำสุราษฎร์ธานีได้รับการประสานจากเรือนจำกลางนราธิวาสว่า มีผู้ติดเชื้อในเรือนจำและมีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเดินทางมาร่วมกิจกรรม จึงได้นำนักโทษและผู้คุมทั้ง 8 รายเข้ารับการตรวจหาเชื้อพบผลเป็นบวก 6 รายส่งเข้ารักษาในห้องความดันลบแล้วนั้น
ล่าสุดความเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.นราธิวาส ทางด้านนายแพทย์วิชัย วิเชียรวัฒนชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส ได้ออกหนังสือที่ นธ.0032.2/ว เรื่อง ของดให้บริการรับ-ส่งต่อผู้ป่วย Refer แจ้งไปยังผู้อำนวยการ รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไปและ รพ.ชุมชนทุกแห่ง ใจความว่า สืบเนื่องด้วยโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ มีการสัมผัสการติดเชื้อและเพื่อรองรับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อันเนื่องจากการระบาดจากหน่วยภายนอก ขณะเดียวกันมีการแพร่เชื้อภายในโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ทำให้เจ้าหน้าที่จำนวนมากสัมผัสโรค และอาจเกิดการติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
ในการนี้ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จึงของดให้บริการรับผู้ป่วย Refer ส่งเข้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เป็นเวลา 48 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อย ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลขอความร่วมมือโรงพยาบาลแม่ข่ายและโรงพยาบาลข้างเคียงช่วยรับการส่งต่อโดยตรง ณ โรงพยาบาลของท่านแต่ละโซน เพื่อลดการติดเชื้อของผู้ป่วยนอกเขต ไม่ให้กระจายออกไปนอกพื้นที่ ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ยังรับให้คำปรึกษาใน First AIDS เช่นเดิม

ซึ่งแผนการส่งต่อภายใน 48 ชั่วโมง จะพิจารณาดังนี้
1.โรงพยาบาลยะลา ช่วยรับโซนโรงพยาบาลรือเสาะและโรงพยาบาลศรีสาคร
2.โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ช่วยรับโซนโรงพยาบาลตากใบ โรงพยาบาลระแงะ โรงพยาบาลจะแนะและโรงพยาบาลเจาะไอร้อง
3.โรงพยาบาลปัตตานี ช่วยรับโซนโรงพยาบาลยี่งอ โรงพยาบาลบาเจาะและโรงพยาบาลไม้แก่น โดยให้ประสานโรงพยาบาลปลายทางก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ระลอก 3 เป็นเพศชาย อายุ 25 ปี สัญชาติไทย เดินทางเข้าไปที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ และผลตรวจหาเชื้อเป็นบวก ขณะนี้นอนรักษาตัวที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์
ทางด้านเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ได้รายงานสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ของเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง (2 เม.ย.64) ดังนี้
1.ตรวจพบผู้ต้องขังร่วมกิจกรรมการต่อต้านยาเสพติดที่ จ.สุราษฎร์ธานี ติดเชื้อโควิคจำนวน 4 ราย
โดยเรือนจํากลางสุราษฎร์ธานี แจ้งว่า ผลการตรวจผู้ต้องขังเรือนจำ จ.นราธิวาส ที่ไปร่วมกิจกรรม ทั้ง 4 คนเบื้องต้นผลเป็นบวก (ติดโควิด) เจ้าหน้าที่อีก 4 คนผลเป็นลบ
2.การปฏิบัติเมื่อผู้ต้องขังดังกล่าวกลับมาที่เรือนจำแล้วจะรายงานให้สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสทราบเพื่อดำเนินการรักษาอาการตามความเห็นแพทย์ต่อไป แต่หากไม่ต้องส่งตัวไปนอนที่โรงพยาบาล จะให้กักตัวที่ห้องแยกโรคแดน 6 (แรกรับ) ในส่วนของเจ้าหน้าที่ แม้จะตรวจไม่พบในเบื้องต้น แต่ก็ถือว่าเป็นผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดมีความเสี่ยงสูง เมื่อกลับมาถึงเรือนจำ จะให้กักตัวที่บ้านพักเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการที่กรมราชทัณฑ์และกระทรวงสาธารณสุขกำหนด
3.กำชับเจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 14 ราย ให้ถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19 โดยเคร่งครัด กล่าวคือ ขณะอยู่บ้านพักให้แยกห้องนอนกับบุคคลในบ้านให้เว้นระยะห่าง 1.5 ถึง 2 เมตร ไม่รับประทานอาหารร่วม สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ขณะพบปะผู้คนทั้งในบ้านและนอกบ้าน
4.เจ้าหน้าที่สำนักงานควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เข้าตรวจหาเชื้อโดยวิธีการ Swab จากผู้ต้องขังจำนวน 119 คน และเจ้าหน้าที่เรือนจำจำนวน 65 คน รวมเป็นจำนวน 184 คน
และในวันที่ 3 เม.ย.64 ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสและเจ้าหน้าที่สำนักงานควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ได้เข้าตรวจผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยงเพิ่มอีกทั้งแดน 5 (แดนที่พบผู้ต้องขังป่วย) และแดน 6
5.การประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ตามข้อ 4 เมื่อช่วงเย็น ได้กำหนดให้ทางเรือนจำจัดเตรียม สถานที่เป็นโรงพยาบาลสนาม จำนวน 1 แห่ง ซึ่งเรือนจำได้กำหนดให้แดน 2 (สถานพยาบาล) เป็นโรงพยาบาลสนาม กรณีมีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดจำนวนมาก ซึ่งแดน 2 (พยาบาล) สามารถรองรับผู้ต้องขังได้ประมาณ 200 คน
6.กรณีมีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดเกิน 200 คน ที่เเดน 2 (สถานพยาบาล) จะรองรับได้ เรือนจำได้กำหนดใช้แดน 6 (แรกรับ) เป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งจะรองรับผู้ต้องขังป่วยทั้งหมดได้ประมาณ 691 คน
อย่างไรก็ตามรายงานแจ้งว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากหลายหน่วยงานของ จ.นราธิวาส ทั้งจากสถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านยาเสพติดของ จ.นราธิวาส กำลังอยู่ระหว่างการรายงานตัวและแจ้ง Timeline รวมทั้งเข้าระบบการคัดกรองตามกระบวนการของกระทรวงสาธารณสุข
ขณะที่ศูนย์ EOC จ.นราธิวาส โดยนายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ลงนามในวิทยุสื่อสารด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมาว่า ด้วยจังหวัดนราธิวาสได้รับแจ้งจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ว่าเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 เวลา 20.00 น.ได้รับรายงานสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส จึงได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โดยได้ดำเนินการสอบสวนโรค พบว่าเรือนจำจังหวัดนราธิวาสมีผู้ต้องขังรวม 2,334 ราย และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 97 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สัมผัสเชื้อ 791 ราย จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อแล้ว 214 ราย พบติดเชื้อ 112 ราย แยกเป็น เจ้าหน้าที่เรือนจำ 23 ราย นักโทษชาย 87 ราย นักโทษหญิง 1 ราย และพยาบาลเรือนจำ 1 ราย ทั้งนี้จังหวัดนราธิวาสได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โดยติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยทุกราย เพื่อตรวจคัดกรองและนำเข้ากระบวนการดูแลตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และมีการเปิดโรงพยาบาลสนามในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด โดยผู้ที่มีอาการรุนแรง จะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ต่อไป
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 12.00 น.สภ.เมืองนราธิวาส ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จงนราธิวาสว่า ผลการตรวจหาเชื้อโควิดจากผู้ต้องหาต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม ที่ควบคุมตัวที่ สภ.เมืองนราธิวาส เพื่อรอผลักดันกลับประเทศ จำนวน 7 ราย ผลการตรวจหาเชื้อเป็นบวกทั้งหมด และได้ส่งตัวทั้ง 7 รายไปเข้ารับการรักษาที่ รพ.ระแงะแล้ว

Exit mobile version