นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
ผบ.ทร.ชมการฝึกยุทธ์การสะเทินน้ำสะเทินบก ทร. 64 แสดงศักยภาพทางทหาร! ภายใต้รหัสปฏิบัติการ “ยุทธการพิทักษ์ด้ามขวาน”
เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 31 มีนาคม 2564 ที่บริเวณชายหาดค่ายจุฬาภรณ์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในค่ายจุฬาภรณ์ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลเรือเอกชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางพร้อมคณะฯ เพื่อรับชมการฝึกปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก กองทัพเรือ 64 ซึ่งกองทัพเรือจะจัดให้มีการฝึกกองทัพเรือเป็นประจำทุกปี เพื่อพัฒนากำลังพลและระบบยุทโธปกรณ์ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติการทางทหารในฐานะหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงทางทะเลของประเทศไทย ในการเตรียมกำลังให้เกิดความพร้อมเพื่อปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศผ่านการฝึก ทั้งนี้กองทัพเรือได้กำหนดให้หน่วยกำลังรบในทุกระดับดำเนินการเตรียมความพร้อมในระดับหน่วยตามความเชี่ยวชาญเฉพาะของกิจที่ได้รับจนถึงการบูรณาการกำลังขนาดใหญ่เข้าด้วยกันเพื่อฝึกการปฏิบัติการ ภายใต้สถานการณ์การฝึกตามแผนป้องกันประเทศในแต่ละด้าน โดยกำหนดแนวคิดหลักอ้างอิงจากสถานการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดไว้ในการฝึกกองทัพเรือประจำปี ซึ่งนอกจากจะเป็นการเตรียมความพร้อมของกำลังรบในการปฏิบัติการแล้ว การฝึกกองทัพเรือยังเป็นการทดสอบแผนการปฏิบัติระบบการควบคุมการบังคับบัญชาระบบการสื่อสารและระบบการส่งกำลังบำรุงในภาพรวมตลอดจนเป็นการทดสอบการปฏิบัติการร่วมระหว่างเหล่าทัพอีกด้วย
หลังจากนั้น พลเรือเอกชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร.กล่าวกับกำลังพลว่า การยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบกถือเป็นการปฏิบัติการเชิงรุกทางทหาร และเป็นความโดดเด่นของกำลังทางเรือที่ดำเนินกลยุทธ์ในพื้นที่ชายฝั่งของข้าศึก ในประวัติศาสตร์ การยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบกนับตั้งแต่แผนยุทธการกันลิโปลี่ ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ใช้เรือเป็นหลักในการเคลื่อนย้ายกำลังพลขึ้นสู่ฝั่ง และได้มีวิวัฒนาการเรื่อยมาทั้งในด้านยุทโธปกรณ์ การเคลื่อนย้ายกำลังและหลักนิยม สามารถกล่าวได้ว่าเป็นปฏิบัติการร่วมที่มีทั้งกำลังรบทางเรือ กำลังทหารนาวิกโยธิน และกำลังทางอากาศ เข้ามาปฏิบัติการร่วมกันอย่างหลากหลายในทางยุทธวิธี แต่มีเป้าหมายเดียวกัน เพื่อให้เกิดความสำเร็จทางการยุทธ์ โดยมุ่งเน้นในการลดระยะเวลาและลดการสูญเสียกำลังให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด การปฏิบัติการยุทธ์ที่กล่าวมานั้นจำเป็นต้องอาศัยการวางแผน การประสานการใช้กำลังอำนาจในการโจมตีทุกมิติ เพื่อให้เกิดโมเมนตัมหรือความสามารถในการเคลื่อนที่ในการรบสูงสุด จึงนับได้ว่าการฝึกดังกล่าวนี้เป็นการฝึกที่ทดสอบขีดสมรรถนะของกำลังรบในทุกสาขาปฏิบัติการได้อย่างครอบคลุมในทุกมิติ
สำหรับการฝึกปฏิบัติกรยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบกในครั้งนี้สิ่งที่จะได้รับนอกเหนือจากขั้นตอนการประสานงานระหว่างหน่วยกำลังที่มีความหลากหลายมิติแล้ว ยังได้เห็นถึงข้อจำกัดต่างๆที่ถือเป็นบทเรียน และสามารถนำไปพัฒนาการฝึกให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจนนำไปวางแผนจัดการกับยุทโธปกรณ์ต่างๆรวมทั้งปรับปรุงแนวความคิดตามหลักนิยมการปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบกให้สามารถตอบสนองกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป