นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

(คลิป) 2 กลุ่มชิงนายก ทต.บ้านแปะ ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงคึกคัก จัดรถแห่เข้าถึงทุกตารางเมตร หวังอาสารับใช้พัฒนาในพื้นที่ ด้าน กกต.เชียงใหม่ ตั้งเป้าคนออกไปใช้สิทธิ์ร้อยละ 75 มีผู้ชิงนายกฯมากที่สุดในประเทศไทย

2 กลุ่มชิงนายก ทต.บ้านแปะ ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงคึกคัก จัดรถแห่เข้าถึงทุกตารางเมตร หวังอาสารับใช้พัฒนาในพื้นที่ ด้าน กกต.เชียงใหม่ ตั้งเป้าคนออกไปใช้สิทธิ์ร้อยละ 75 มีผู้ชิงนายกฯมากที่สุดในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเลือกตั้ง โค้งสุดท้ายพื้นที่เลือกตั้งในเขต ทต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ที่น่าจับตาบรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงของผู้สมัครทั้ง 2 กลุ่ม ที่มีขั้วการเมืองใหญ่ระดับชาติ 2 ขั้วการเมืองเฝ้าจับตาดูและสนับสนุนสนามเลือกตั้งในพื้นที่ ทต.บ้านแปะ แห่งนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง ผู้ลงสมัครนายกฯมี นายประสิทธิ์ กันทาดง ผู้สมัครนายก ทต.บ้านแปะ เบอร์ 1 “กลุ่มรวมพลังมวลชน” และ นายพันธ์ศักดิ์ แก้วสุดใจ ผู้สมัครชิงนายก ทต.บ้านแปะ เบอร์ 2 “กลุ่มนำพลังบ้านแปะ”

ทางอดีตนายก ทต.บ้านแปะ นายพันธ์ศักดิ์ แก้วสุดใจ ผู้สมัครนายกฯ เบอร์ 2 ลงพื้นที่พร้อมผู้สมัคร สท.เบอร์ 1-6 ขอคะแนนเสียงที่ดอยขุนแปะ บ้านบนนา บ้านขุนแปะ โดยขึ้นรถแห่ขอคะแนนเสียงเพื่ออาสารับใช้พี่น้อง “สานงานต่อ ก่องานใหม่” ในนามกลุ่มนำพลังบ้านแปะ พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านแปะ ทั้ง 2 เขต ชูนโยบายเร่งด่วน ดำเนินการโครงการ 1 ตำบล 1 โรงเรียนเทศบาล, จัดตั้งศูนย์บริการและฝึกอบรมผู้พิการประจำตำบล, จัดทำเอกสารที่ดินรายแปลงสู่สิทธิ์ที่ยั่งยืน, จัดตั้งโครงการตำบลเทคโนโลยี (ตำบลอัจฉริยะ) และขยายการให้บริการศูนย์กู้ชีพกู้ภัยให้ทั่วถึง ส่งเสริมการท่องเที่ยว ยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่

ส่วนผู้ท้าชิงโดยกลุ่มรวมพลังมวลชน ได้ลงพื้นที่หาเสียงของกลุ่มฯนำขบวนรถแห่ประชาสัมพันธ์นโยบายในพื้นที่ บ้านโฮ่งมะค่าและบ้านท่าข้ามเหนือโดยมี นายประสิทธิ์ กันทาดง ผู้สมัครนายกเทศบาล เบอร์ 1 กลุ่มรวมพลังมวลชน ซึ่งเคยเป็นอดีตนายกฯ มาก่อน 1 สมัย โดยนำผู้สมัครทั้ง 2 เขต เบอร์ 8 ถึง 13 ลงรับสมัครการเลือกตั้งครบทุกเขต พร้อมชูนโยบาย “ความดีประจักษ์ เป็นนักประสาน จิตใจเบิกบาน ปะไหนอู้ได้..” พร้อมประกาศไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง

โดยทั้งสองกลุ่มยังได้ฝากปัญหาการที่ข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลางให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย และเชิญชวนพี่น้องประชาชน ในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลบ้านแปะ ให้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2561 เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น.เพื่อแสดงออกถึงพลังประชาธิปไตยอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์ชาวบ้านในพื้นที่บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ถึงการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยกลุ่มชาวบ้านได้ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นในเรื่องของการเมืองท้องถิ่นในครั้งนี้ โดยชาวบ้านคนแรก บอกว่า ต้องให้คนท้องถิ่นเป็นผู้แก้ไขปัญหาเพราะเป็นคนในพื้นที่และรับรู้รับทราบปัญหาของชาวบ้านเป็นอย่างดี ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่มีชื่อผู้ที่สมควรจะมาเป็นผู้บริหารอยู่ในใจอยู่แล้ว

ในส่วนคำถามที่ว่า การเมืองในครั้งนี้รุนแรงหรือไม่นั้น ชาวบ้านที่เป็นเจ้าของธุรกิจค้าขายเสื้อผ้าพื้นเมือง ต.บ้านแปะ บอกว่า การเมืองถือว่าไม่รุนแรงเพราะการออกหาเสียงของแต่ละกลุ่ม ถือว่าเป็นเรื่องปกติของการแข่งขัน ชาวบ้านดูออกว่าใครทำงานไม่ทำงานและคนไหนมีประสิทธิภาพในการนำความเจริญก้าวหน้าเข้ามาสู่หมู่บ้าน โดยรวมการหาเสียงในครั้งนี้ก็เห็นชูนโยบายของแต่ละกลุ่ม แต่ต้องดูแลเรื่องปากท้องของชาวบ้าน ซึ่งอดีตนายกฯคนล่าสุด ก็ถือว่ามีผลงานทำงานดีอยู่แล้ว เช่นโครงการ ออมวันละบาท โครงการในส่วนของกลุ่มแม่บ้านที่ได้รับการสนับสนุนทุกโครงการเป็นต้น

ในส่วนความเห็นกลุ่มการเมืองระดับชาติที่ลงมาสนับสนุนการเมืองท้องถิ่นนั้น ชาวบ้านคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ในความเห็นส่วนตัว ไม่เห็นด้วย เห็นว่าการเมืองท้องถิ่นควรให้คนในท้องถิ่นเป็นผู้จัดการ เพราะคนในท้องที่รับทราบปัญหาดี การเมืองระดับชาติก็ให้บริหารจัดการในระดับชาติออกกฏหมาย แต่การเมืองท้องถิ่นต้องการให้ต่างคนต่างหาเสียง เลือกตั้งเสร็จทุกคนเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ตรงนี้คือความสำคัญที่ไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยก หากการเมืองระดับชาติมายุ่งจึงทำให้การเมืองท้องถิ่นไม่เจริญ เหมือนการแข่งขันกีฬา กรรมการเป่านกหวีด ก็เริ่มแข่งขันกันไป พอกรรมการเป่านกหวีดหยุดการแข่งขันในวันที่ 28 มี.ค.ที่เป็นวันเลือกตั้งแล้ว คนที่ได้รับเลือกตั้งก็ดีใจกันไป คนที่แพ้ก็ยังเป็นคนในหมู่บ้านมีสติปัญญาก็ช่วยสนับสนุนกันเพื่อพัฒนาบ้านเมืองต่อไป

ส่วนข้อถามเรื่องนโยบายของ 2 กลุ่มการเมืองที่ลงชิงนายก ทต.บ้านแปะ ชาวบ้านบอกว่า นโยบายคล้ายๆกัน อยู่ที่ใครเข้าไปบริหารต้องดูแลปัญหาให้ชาวบ้านอย่างจริงจัง ต้องอิงชาวบ้านเป็นหลัก เพราะไม่ใช่การเมืองใหญ่ระดับชาติ สส.ต้องอิงพรรค สจ.ก็ไปไกลอีกหน่อย ในส่วนของ นายก และ สท.ต้องดูแลชาวบ้าน อีกประการหนึ่งที่ว่า เอาการเมืองเมืองใหญ่มาครอบงำในท้องถิ่น ชาวบ้านไม่เห็นด้วย เพราะการทำงานใดๆจะกลายเป็นหุ่นเชิดต้องฟังแต่ข้างบนอย่างเดียวโดยไม่ฟังเสียงชาวบ้าน

ทางด้าน กกต.เชียงใหม่ ตั้งเป้าคนออกไปใช้สิทธิ์ร้อยละ 75 เพราะ จ.เชียงใหม่ มีผู้สมัครชิงนายกเทศมนตรีถึง 299 คน มากสุดในประเทศ ทางคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง หรือ กปน. จากทั้งหมด 121 หน่วยเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีที่ จ.เชียงใหม่ เดินทางเข้ารับมอบหีบบัตร บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง คูหาลงคะแนน และ ชุดวัสดุอุปกรณ์ จากคณะกรรมการการเลือกตั้งที่โรงพลศึกษา สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่การเลือกตั้งเทศบาลจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ( 28 มี.ค.)

ทางด้านนายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า กกต.เชียงใหม่ ตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลไม่น้อยกว่าการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ผ่านมาที่ร้อยละ 71 แต่ก็หวังว่ามีคนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ถึงร้อยละ 75.

ทรงวุฒิ ทับทอง

Exit mobile version