ผญบ.ร้องศูนย์ดำรงธรรมแม่ริม โดนฝ่ายตรงข้ามมารดา ผู้สมัครส.ท. กลุ่ม 9 พัฒนา กลั่นแกล้งใส่ร้ายไม่ให้ผ่านประเมิน เชื่อดิสเครดิต หวังผลการเมืองท้องถิ่น ขอความเป็นธรรม – ประเมินใหม่
วันที่ 1 มีนาคม 2564 ที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายกิตติ อยู่สบาย อายุ 36 ปีผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 บ้านน้ำงาม ต.ริมใต้ ได้ยื่นหนังสือกับนายนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม ในฐานะหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมเพื่อร้องเรียน และคัดค้านการประเมินผลผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ว่าไม่เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม และขอให้มีการประเมินผลใหม่ โดยยื่นเอกสารหลักฐาน คลิปวีดีโอ เพื่อประกอบการร้องเรียนและคัดค้านดังกล่าว ซึ่งนายบุญญฤทธิ์ได้รับเรื่องไว้ ก่อนส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาและสั่งการ ตามลำดับ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
นายกิตติ กล่าวว่า ทางอำเภอได้ให้ประชาชนประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ ตามวาระ 4 ปี ซึ่งมีผู้ร่วมประเมินกว่า 200 คน แต่การประเมินดังกล่าวมีการชี้นำ เกณฑ์คน พร้อมว่าจ้างผู้ประเมินรายละ 200 – 300 บาท เพื่อให้ผู้ใหญ่บ้านไม่ผ่านการประเมิน โดยมีเจ้าหน้าที่บางรายร่วมมือ โดยส่งผลการประเมินดังกล่าว ไปเผยแพร่สู่สาธารณชน ทำให้ได้รับความเสียหาย เนื่องจากเป็นผู้ใหญ่บ้านมากว่า 10 ปีแล้ว เป็นบุตรของนางสุมิตรา อยู่สบาย ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) หมายเลข 1 เขต 1 ของกลุ่ม 9 พัฒนา ทำให้ได้รับผลกระทบดังกล่าวโดยตรง เนื่องจากประชาชนเกิดความสับสน ไม่ไว้วางใจตน และมารดาในทางการเมืองอีก
“การกระทำดังกล่าว เชื่อมาจากการเมืองท้องถิ่น มีทีมบริหารของผู้สมัครนายกเทศมนตรีบางราย ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ต้องการกลั่นแกล้งใส่ร้าย สร้างความเข้าใจผิด หรือดิสเครดิตผมและมารดา ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เพื่อหวังผลทางการเมือง ก่อนเลือกตั้งวันที่ 28 มีนาคมนี้ ทำให้การประเมินดังกล่าว ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม จึงเรียกร้องความเป็นธรรม และให้ประเมินผลใหม่ ภายใต้การมีส่วนร่วมประชาชนแท้จริง ไม่มีอามิสสินจ้าง หรือผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องอีก” นายกิตติ กล่าว
ทางด้านนายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า ส่งเรื่องดังกล่าวไปให้ปลัดอำเภออาวุโส รักษาการแทนนายอำเภอ เป็นผู้พิจารณาและสั่งการเพื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้สาธารณชนรับทราบโดยเร็วที่สุด ส่วนนายกิตติ ยังมีสถานะเป็นผู้ใหญ่บ้านอยู่ ไม่ได้ปลดออกจากตำแหน่งอย่างใด ต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน ตามพยาน เอกสารหลักฐานที่ปรากฎก่อนสรุปข้อเท็จจริงต่อไป.
ทรงวุฒิ ทับทอง