นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
เปิดปฏิบัติการ กอ.รมน.ภาค4 สน.ชุดพยัคฆ์ไพร ลงพื้นที่ตรวจยึดไม้ สืบสวนพบนายทุนใหญ่กรุงเทพและภูเก็ตทุ่มเงินมหาศาลจ้างตัดไม้เศรษฐกิจในพื้นที่ จชต.อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
(13 ก.พ.) ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยอธิบดีกรมป่าไม้สั่งการให้ชุดพยัคฆ์ไพร ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ทำการทางยุทธวิธี กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ร่วม 30 นาย ลงตรวจสอบพื้นที่กรณีร้องเรียนว่ากลุ่มนายทุนนอกพื้นที่ โดยเฉพาะนายทุนจากกรุงเทพและภูเก็ต เข้ามากว้านซื้อไม่มีค่าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการสวนตออ้างที่ดินกรรมสิทธิ์แล้วตัดไม้ขนาดใหญ่จำนวนมากที่มีมูลค่ามหาศาล โดยได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดในเขตพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์ ท้องที่บ้านกูยิ หมู่4 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส
จากการตรวจสอบพบพื้นที่ป่าไม้มีการลักลอบตัดถนนใหม่เข้าไปในป่า โดยใช้รถไถตีนตะขามและตามรอยไปยังตรวจพบรอยเท้าช้างลากไม้และพบการจงใจตัดถนนใหม่เข้าไปหาต้นไม้หวงห้ามขนาดใหญ่แต่ละต้น อีกทั้งตรวจพบพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย การตัดต้นไม้มีค่าขนาดใหญ่ที่ถูกตัดโค่นด้วยเครื่องเลื่อยยนต์หลายต้น ก่อนจะบั่นทอนเป็นท่อน
เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจวัดต้นไม้ที่ถูกตัดก่อนยึดเป็นของกลาง ประกอบด้วยไม้กาลอ ไม้มะค่าแต้ หรือไม้ก้างปลา ไม้มังคะ ไม้ตะเคียนชันตาแมว ทั้งหมดมีขนาดโคนต้นโตตั้งแต่ 250 – 680 เซนติเมตร อายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี รวม 9 ต้น ความเสียหายของต้นไม้ที่ถูกตัดโค่น รวมถึงที่ดินป่าไม้ถูกไถทำลายเป็นถนนอยู่ระหว่างการประเมินของเจ้าพนักงานป่าไม้และขณะตรวจสอบตรวจยึดไม่พบผู้กระทำผิด
นายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) กล่าวว่าได้รับเรื่องจาก กอ.รมน.ภาค4 สน. และกลุ่มอนุรักษ์ในพื้นที่ว่า มีนายทุนจากต่างจังหวัดเข้ามากว้านซื้อไม้ในที่ นส.3 ก เป็นจำนวนมาก ตั้งแต่มีการปลดล็อค พรบ.ป่าไม้ว่าสามารถทำไม้ในที่กรรมสิทธิ์ครอบครองได้ ซึ่งการออกให้นั้นเพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านได้ปลูกไม้เองแล้วมีไม้ได้ใช้สอยกัน แต่ก็มีกลุ่มมิจฉาชีพใช้ช่องทางนี้ลักลอบทำไม้และมีการสวมไม้ออกจากป่า พบว่าล้วนเป็นไม้หวงห้ามที่มีมูลค่า ทั้ง ตะเคียน ไม้หลุมพอ ถือเป็นไม้ที่มีมูลค่าสูงจากพื้นที่ภาคใต้
นายชาญชัย ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) กล่าวว่าจากการสืบสวนและแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้แจ้งว่าตอนนี้เริ่มมีนายทุนจากต่างจังหวัด ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลมาก เพื่อมาซื้อไม้ที่อยู่ในเอกสารสิทธิ์ ซึ่งการตรวจสอบอย่างละเอียดส่วนใหญ่ยังพบว่าเป็นการนำเอกสารสิทธิ์ทางที่ดินมาสวมและไม้ที่ตัดก็พบว่าล้วนอยู่นอกเอกสารสิทธิ์มาอ้างอิง อีกอย่างคือเรายังไม่รู้ว่าเอกสารสิทธิ์นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะจากที่ตรวจสอบส่วนใหญ่ ต่อให้มีเอกสารสิทธิ์เป็นที่ นส.3 ก ก็จริง แต่กลับเป็นสภาพป่าสมบูรณ์ทั้งหมดเลย
