นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

สภ.เมืองบุรีรัมย์ร่วมกันสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับนายวันเฉลิม พวงแก้วอายุ30ปี

เมื่อวันที่28มกราคม2564เวลา15.30น.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3,พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท,พล.ต.ต.ภาณุ บูรณศิริ รอง ผบช.ภ.3,พล.ต.ตชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3,พล.ต.ต.กานต์พงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2,พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5,พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน2 บก.สส.ภ.3,กก.1บก.สอท.5,และ สภ.เมืองบุรีรัมย์ร่วมกันสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับนายวันเฉลิม พวงแก้วอายุ30ปี

อยู่บ้านเลขที่86/24ซอยเพิ่มสินธ์24/1แขวงคลองสานเขตสายไหมกรุงเทพมหานครผู้ต้องหาหมายศาลศาลอาญา ที่ จ.1/2561ลง 12กรฏาคม2561โดยกล่าวหาว่า”ฉ้อโกงโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพืวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิมพ์เตอร์ปลอมหรือข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนและนางสาวจุรีพร ดวงชาติ อายุ18ปีอยู่บ้านเลขที่45/4หมู่ที่3ตำบลบางพูล อำเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานีและอีกคนคือนางสาวพัชรา ปิวะงษ์อายุ24ปีอยู่บ้านเลขที่302/189ซอยกำแพงเพชร6แขวงทุ่งสองห้องเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานครผู้ต้องหาตามหมายศาลชลบุรีโดยกล่าวหาว่า”ฉ้อโกง”โดยเมื่อวันที่25มการคม2564เวลา16.45น.ได้มีผู้เสียหายซึ่งถูกหลอกให้โอนเงินค่สั่ซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สอยดาว จังหวัดจันทรบุรี ว่าได้มีคนเข้ามาทักทายติดต่อขายล้อแม็ครถยนต์ให้กับตนเอง แล้วหลอกให้โอนเงินค่าสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง

เข้าไปยังบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรของคนร้าย หมายเลขบัญชี 020193875301ชื่อบัญชี จุรีพร ดวงชาติเป็นจำนวนเงิน 11,500บาทและเมื่อผู้เสียหายได้โอนเงินให้เสร็จแล้วคนร้ายก็ได้โทรศัพท์กลับมาหาผู้เสียว่าไม่ได้ทำบันทึกช่วยจำว่าเป็นเจ้าของบัญชีจริง จะได้ทำการโอนเงินคืนให้และแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาอีกครั้งซึ่งเป็นที่2ที่คนร้ายหลอกให้โอนเงินเป็นจำนวน11,500บาทผู้เสียหายก็หลงเชื่องและอยากได้เงินคืน จึงได้ตกลงทำตามที่คนร้ายหลอกให้โอนเงินทั้งหมดหลังจากนั้นคนร้ายได้ทำการยักย้ายถ่ายโอนเงินไปยังบัญชีอื่น โดยไม่ได้โอนเงินให้กับผู้เสียหายแต่อย่างใดส่วนนางสาวจุรีพร ดวงชาตินั้นเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในการหลอกลวงผู้เสียที่สั่งซื้อล้อแม็ค ทอง

กระเป๋าแบรนต์เนม และสินค้าอื่นๆที่มีการสั่งซื้อกันทางอินเตอร์เน็ตจากกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ได้มีการทำเพจเฟสบุ๊คปลอมขึ้นมาและได้เข้าไปทักทายกับผู้ซื้อสินค้าทางเพจเฟสบุ๊คแล้วก็ได้หลอกผู้เสียโอนเงินเหมือนเดินจึงมีผู้หลอกและเสียเงินไปหลายรายรวมเป็นเงินหลายแสนบาท เมื่อเจ้าที่ชุดสืบสวนไดติดตามกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ก็ทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้มีแหล่งที่พักอาศัยของคนร้ายทั้ง3ที่มีชื่อดังกล่าวว่าได้ไปอาศัยอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์จึงได้นำกำลังไปจำคุมและยึดของกลางได้เงินจำนวน451,170บาทสมุดเงินฝากธนาคาร พร้อมบัตรเครดิต โทรศัพท์จำนวน6เครื่อง ซิมการ์ดจำนวน14ซิม จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสรภาพว่าได้กระทำการเปิดเฟสบุ๊คปลอมขึ้นมาหลอกลวงผู้เสียหายมาหลายครั้งแล้วโดยนายเฉลิม พวงแก้วจะเป็นผู้สอนให้และการหลอกผู้เสียหายแต่ละครั้งก็จะได้เงินจากการหลอกผู้เสียหายได้ครั้งละเป็นแสน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงได้แจ้งข้อหากล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง3คนและได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สอยดาว จังหวัดจันทรบุรี เจ้าของหมายจับ ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

Exit mobile version