นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

พ่อเมืองศรีสะเกษมอบวุฒิบัตรผู้ผ่านการฝึกอบรมเพิ่มทักษะระยะสั้น“โคก หนอง นา โมเดล”รุ่นที่ 4

พ่อเมืองศรีสะเกษมอบวุฒิบัตรผู้ผ่านการฝึกอบรมเพิ่มทักษะระยะสั้น“โคก หนอง นา โมเดล”รุ่นที่ 4
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564 เวลา 16.00 น. ที่ศูนย์เรียนรู้ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล จังหวัดศรีสะเกษ

บ้านตาเหล็ก หมู่ที่ 10 ต.เมืองหลวง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรผู้ผ่านการฝึกอบรมฯ ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และปิดการฝึกอบรมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์ “โคก หนอง นา โมเดล” กิจกรรมที่ 1 ฝึกอบรมเพิ่มทักษะระยะสั้นการพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง รูปแบบ โค หนอง นา โมเดล รุ่นที่ 4 โดยมีนายจรินทร์ รอบการ พัฒนาการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมและประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับและร่วมพิธี
นายวัฒนา กล่าวว่า เนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบไปถึงวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ ด้านการสาธารณสุข ด้านการคมนาคมและอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดวิกฤตทางสังคมขนาดหนักไปทั่วทั้งโลก ซึ่งการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติย่างเป็นขั้นตอน

โดยใช้หมู่บ้านเป็นฐานของการพัฒนา มุ่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ทุกครัวเรือน และพัฒนาคนให้มีความรู้และปรับตัวให้สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข มีอาชีพ สร้างรายได้ ในรูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล” จึงเป็นทางรอดที่สำคัญที่พี่น้องชาวจังหวัดศรีสะเกษ ควรน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติให้เห็นผล เป็นรูปธรรม ซึ่งผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในครั้งนี้มีทั้งหมด 102 คน จากพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ราษีไศล อ.ปรางค์กู่ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ และอ.ศิลาลาด เมื่อผ่านการฝึกอบรมไปแล้ว จะต้องนำความรู้ที่ได้รับ นำไปพัฒนาพื้นที่ของตนเองให้ประสบผลสำเร็จ เห็นผลเชิงประจักษ์ และเป็นต้นแบบที่ดี ให้แก่พี่น้องชาวจังหวัดศรีสะเกษและคนอื่นๆ สามารถเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ในการทำกสิกรรมธรรมชาติ การปลูกป่า 3 อย่างให้ประโยชน์ 4 อย่าง การปลูกป่า 5 ระดับ เพื่อพลิกฟื้นคืนชีวิตให้ผืนดิน ให้ครอบครัวได้พอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น มีหลือก็แบ่งปัน ทำบุญ ทำทาน หากมีมากก็เก็บรักษาไว้เผื่อใช้ยามจำเป็น หรือขายเพื่อสร้างรายได้ให้ครอบครัว และรวมกันเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็ง เพื่อที่จะสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ให้กับเศรษฐกิจในระดับฐานรากต่อไป.

*************
บุญทัน ธุศรีวรรณ … ข่าว/ภาพ

Exit mobile version