นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

นครราชสีมา // เอาจริง ! ตำรวจภาค 3 ระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนเลือกตั้ง อบจ. พบกระทำผิดยาเสพติดมากกว่า 1 พันคน ขณะที่ผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน มากถึง 500 คน วอนช่วยกันเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแส

นครราชสีมา //
เอาจริง ! ตำรวจภาค 3 ระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนเลือกตั้ง อบจ. พบกระทำผิดยาเสพติดมากกว่า 1 พันคน ขณะที่ผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน มากถึง 500 คน วอนช่วยกันเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแส

นครราชสีมา -วันนี้ (17 ธันวาคม 2563) ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นประธานการแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ของตำรวจภูธรภาค 3 ก่อนการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ระหว่างวันที่ 10-19 ธันวาคม 2563 โดยมีพันตำรวจโทระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา , รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และตำรวจชุดปราบปรามฯ ร่วมการแถลงผลระดมกวาดล้างฯ ในครั้งนี้

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีหนังสือด่วนที่สุด เรื่องการเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยให้จัดกำลังพลเจhาหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในแต่ละภารกิจ ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นทีjสถานการณ์ และให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และอาวุธสงคราม ดังนั้น ในช่วงก่อนการเลือกตั้งฯ จึงได้สั่งการให้สถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 บูรณาการสรรพกำลังร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรม ระหว่างวันที่ 10-19 ธันวาคม 2563

โดยเน้นเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ อาวุธปืน วัตถุระเบิด อาวุธสงคราม ยาเสพติดให้โทษ การพนันทุกประเภท แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างจริงจัง และให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยวันนี้ได้แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี ในห้วงระหว่างวันที่ 10 – 19 ธันวาคม 2563 ซึ่งสามารจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางในคดีต่างๆ ได้แก่ความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ จับกุมได้ 19 ราย ผู้ต้องหา 19 คน ,ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ จับกุมได้ 28 ราย ผู้ต้องหา 29 คน ,ความผิดพิเศษ 17 พ.ร.บ. จับกุมได้ 24 ราย ผู้ต้องหา 24 คน และ คดีความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหาย จับกุมได้ 3,311 ราย ผู้ต้องหา 3,432 คน

และเมื่อแยกผลจับกุมการกระทำความผิด พบว่า เป็นการจับกุมตามหมายจับคดีค้างเก่า กลุ่ม 1-4 จำนวน 21 ราย ได้ผู้ต้องหา 21 คน , จับกุมความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ได้ 1,151 ราย ได้ผู้ต้องหา 1,151 คน และของกลางเป็นยาบ้า 47,324 เม็ด , สารไอซ์ 126.91 กรัม , กัญชาแห้ง 928.80 กรัม , กัญชาสด 1.533 กิโลกรัม ,รถยนต์ที่ใช้กระทำความผิด 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน นอกจากนี้ ยังเป็นการจับกุมความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน สามารถจับกุมได้ 498 ราย ได้ผู้ต้องหา 500 คน โดยของกลางเป็นอาวุธปืนไม่มีทะเบียน จำนวน 107 กระบอก ทั้งปืนสั้นและปืนยาว , กระสุนปืน 44 นัด ,ดอกไม้เพลิง 106 กล่อง และประทัด 26 กล่อง ส่วนความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ จับกุมได้ 71 ราย ได้ผู้ต้องหา 88 คน มีทั้งหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ,ไม่พกบัตรประจำตัวคนต่างดาวฯ , อยู่เกินกำหนดฯ และเป็นผู้นำพาฯ

ตำรวจภูธรภาค 3 จึงขอความร่วมมือประชาชน และสถานประกอบกิจการทุกแห่งได้แจ้งเบาะแส หรือข้อมูลการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยแจ้งผ่านสายด่วน 1599 และสายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิด และลดปัญหาอาชญากรรมต่างๆของพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในภาพรวมมีความปลอดภัยจากปัญหาอาชญากรรมทุกรูปแบบ

/////////////////

Exit mobile version