นิตยสารตำรวจ สถานีประชาชน

สนามอบจ.เชียงใหม่ ศึกช้างชนช้าง อาจมีเซอร์ไพรซ์ “ตาอยู่” คว้าชัย

สนามอบจ.เชียงใหม่ ศึกช้างชนช้าง อาจมีเซอร์ไพรซ์ “ตาอยู่” คว้าชัย

สนามเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ เป็นอีกสนามที่วัดพลัง บารมี ขั้วอำนาจเก่า-ใหม่ ซึ่งคอการเมืองทั้งประเทศจับตาอย่างสนใจ ด้วยศักดิ์ศรีแชมป์เก่า อย่าง “บุญเลิศ” และ ตัวแทนเครือข่ายใหญ่ ที่เคยทยานสู่เก้าอี้ผู้นำ เก้าอี้นายกรัฐมนตรี วันนี้ส่ง “พิชัย” ลงสู้ศึก แบบ แพ้ไม่เป็น ส่งผลให้ สนามนี้ดุเดือด แต่ใครจะคาดคิดว่า การเมืองแบบเก่า อาจสร้างปรากฎการณ์ “ตาอยู่” คว้าชัยได้เหนือความคาดหมาย จาก ผู้เฒ่าเก๋าเกมส์อย่าง “บดินทร์” บทวิเคราะห์ศึกอบจ.เชียงใหม่ โค้งสุดท้ายนี้ มีปัจจัยใดเป็นตัวแปร ลอง
ติดตาม

สำหรับ “ผู้สมัครหมายเลข 1 ” นายพิชัย เลิศพงษ์อดิศร ซึ่งพรรคเพื่อไทย ส่งเข้าประกวด ต้องยอมรับว่า เป็นหนึ่งใน
คู่แข่ง ที่สมน้ำสมเนื้อ กับผู้สมัครหมายเลข 2 อย่าง “บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ “อดีต นายกอบจ.เชียงใหม่2 สมัย

ในสนามเลือกตั้ง ทั้ง 2 ขั้วต่างเคยเป็นพลพรรค คนแดนไกล และ เจ๊คนดัง จึงเรียนรู้เชิง กลเกมส์การหาเสียง แต่ละฝ่ายดี ด้วยวิธีการ รูปแบบที่ชาวบ้าน เริ่มรู้สึกว่า ไม่ไปหน้า มีแต่เล่าความหลัง

ดังนั้น ผู้สมัคร หมายเลข 4 ที่ชื่อ “บดินทร์ กินาวงค์ ” ซึ่งลงชิงชัย ในฐานะหัวหน้ากลุ่มประชารัฐ เชียงใหม่ นักการเมืองรุ่นลายคราม ที่นำเสนอแนวทางหาเสียงแบบแปลกใหม่ ว่า ” บดินทร์คิด คนเชียงใหม่ตัดสิน ” เน้นการทำงานแบบทีม พร้อมว่าที่ผู้สมัครส.อบจ. แต่ละเขตเลือกตั้ง ดีกรีไม่ธรรมดา เพราะเคยเป็นอาจารย์สอนพิเศษด้านรัฐศาสตร์มากว่า10 ปี ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เคยลงรับสมัครส.ส.ในเขต 7 จังหวัดเชียงใหม่ มาแล้ว มีประสบการณ์งานการเมืองและวิชาความรู้ครบเครื่อง อีกทั้ง ทีมงานแต่ละฝ่าย แต่ละเขตล้วนคลุกคลีกับชาวบ้าน ตระหนักรับรู้ปัญหา ความต้องการ ทิศทางที่ต้องเร่งดำเนินการ ในทุกระยะ ให้เป็นจริง ไม่ใช่ ความฝันทุกครั้งที่มีการหาเสียง..เลือกตั้ง ต้อง ” ตื่นจากฝัน อยู่กับปัจจุบันที่เป็นจริง”..

ทั้งนี้”บดินทร์ กินาวงค์ ” หรือ “ลุงติ่ง”ที่ชาวบ้านผู้คุ้นเคยเรียกกัน ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมือง นั้น ต้องเรียนรู้ ศึกษา บทบาท หน้าที่ กรอบภารกิจอบจ. ที่ ทำได้ ไม่ใช่ไปพูดหาเสียงเรื่อยเปื่อย เกินอำนาจหน้าที่ อบจ. จะเอาเงินงบประมาณไปใช้จ่าย ต้องยึดหลักความจริง ไม่ใช่เงินส่วนตัวที่จะไปไล่แจก หรือทำอะไรก็ได้

” เชียงใหม่ เปรียบเสมือนเมืองหลวงของล้านนา ” เมื่อเปรียบเทียบกับกรุงเทพมหานคร ด้านงบประมาณแล้ว ต่างกันลิบลับ เฉพาะ อบจ.เชียงใหม่ มีงบประมาณปีละเฉลี่ย 2 พันกว่าล้านบาท แบ่งแยกเป็นงบประจำ ทุกหมวดหมู่ เหลือใช้จ่ายด้านลงทุนด้านการพัฒนา 800 กว่าล้าน ถ้าเอาทุกอำเภอ คือ 25 แห่งมาหารเฉลี่ย จะเห็นได้ว่า แทบจะพัฒนา โครงการ ทำกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อท้องถิ่นได้น้อยมาก

ดังนั้นแนวคิดหนึ่งที่จะผลักดันคือ การก้าวสู่ความเป็นมหานครของเชียงใหม่ ต้องเกิดขึ้น การประสานงานของ อปท.เทศบาลแต่ละแห่ง ในพื้นที่ใกล้เคียงนครเชียงใหม่ จะสามารถบริหารจัดการพื้นที่ พัฒนาได้อย่างเป็นระบบ
อีกทั้งระบบขนส่งมวลชน ต้องเร่งดำเนินการ ให้เป็นรูปเป็นร่าง ต้อง จัดพื้นที่เป็นโซนการเกษตร , อุตสาหกรรม, ส่งเสริมการท่องเที่ยว ,เขตอนุรักษ์ เป็นต้น ให้มีถนนเชื่อมต่อแต่ละตำบล อำเภอ อย่างทั่วถึง ไม่ใช่สัญจรได้เฉพาะฤดูกาล เช่นที่เผชิญความทุกข์ยากลำบากของหลายแห่งในช่วงฤดูฝน

นายบดินทร์ ย้ำว่า จากสถิติการเลือกตั้ง อบจ.ในพื้นที่เชียงใหม่ จะมีแฟนพันธุ์แท้กลุ่มพรรคการเมือง ราวๆ 40 %หรือประมาณ 3.9 แสนคะแนน ส่วนอีก6 แสนกว่าแต้ม เลือกอิสระ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ มี 2 รายที่แย่งชิงฐานะคะแนนใกล้เคียงกันจะด้วยวิธีใดก็ตามแต่ ยังมั่นใจว่า ชาวเชียงใหม่ ที่เบื่อหน่ายกับการเมืองแบบเก่าๆ นโยบายเพ้อฝัน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามที่ประกาศหาเสียง ค่อนข้างมั่นใจว่า จะเป็นหนึ่งในตัวเลือก แบบ”ตาอยู่ ” ตนจะไม่ชูนโยบาย หาเสียงแบบนั้น แต่จะเอาความจริง กรอบ อำนาจ หน้าที่ ของ อบจ. มาพูดกับชาวบ้าน ที่ อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงเป็นไป ในทิศทางที่เชียงใหม่ ดีขึ้น

ต้องให้โอกาส “บดินทร์ กินาวงค์ ” ผู้สมัครหมายเลข 4 พร้อม ผู้สมัคร สมาชิก อบจ. กลุ่มประชารัฐเชียงใหม่ แต่ละคน มาจากหลากหลายอาชีพอาสาเข้ามาทำงานการเมือง พร้อมประสานงานกับรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณมาพัฒนาเชียงใหม่

“ขอโอกาสเข้ามาทำหน้าที่พัฒนาเมืองเชียงใหม่ของเรา อย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้เมืองเชียงใหม่อันเป็นที่รักของทุกคน เสียโอกาสในการพัฒนา แม้แต่วินาทีเดียว ทั้งในด้าน คุณภาพชีวิต การก้าวไปสู่ความเป็น “มหานคร” การท่องเที่ยว และระบบขนส่ง ปัญหาหมอกควัน ฯลฯ

เชียงใหม่ของเรา รอไม่ได้แล้ว การพัฒนาอย่างมีเอกภาพคือสิ่งจำเป็น ผมเชื่อว่าทุกคนอยากเห็น เชียงใหม่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ขอให้ทุกท่านให้ความสำคัญในพลังเสียงที่มี ออกไปใช้สิทธ์เลือกทีมที่เชื่อมั่น เพื่อเข้ามาเป็นพลังขับเคลื่อนท้องถิ่น ”

สนามเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ ใครจะคว้าชัย ในตำแหน่งนายก อบจ. อย่าลืม 20 ธันวาคมนี้ ออกไปใช้สิทธ์เลือกตั้งซึ่งจะได้รับบัตรลงคะแนน 2 ใบ โดยเป็นบัตรเลือกนายก อบจ. และ บัตรเลือก สมาชิก อบจ.

ทรงวุฒิ ทับทอง

Exit mobile version